15 พฤศจิกายน 2563 ปั๊บ โปเตโต้ นักร้องชื่อดัง วัย 39 ปี และ ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ นักแสดงสาว วัย 28 ปี ได้เข้าพิธีแต่งงานแบบไทย ที่ห้องบอลรูม โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ถนนวิทยุ และยกน้ำชาแบบพิธีจีน ไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยในช่วงบ่าย ปั๊บ กับ ใบเตย ก็ได้ควงแขนกันมาเปิดใจถึงวันสำคัญ
ปั๊บ : มันเป็นเรื่องของความรู้สึกใหม่ คือเป็นความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิต เราก็เล่นแต่ดนตรี แต่ความรักมันเป็นของคู่กัน และการที่ทำให้เรามาแต่งงานกัน มันเป็นความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในใจผม ผมพยายามกรองว่ามันคืออะไร อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
ใบเตย : สำหรับเมื่อเช้าก็มีแต่ความซาบซึ้ง กับญาติๆ ด้วย กับเพื่อนๆ ด้วย บางทีเราอาจจะไม่คุยเรื่องความรู้สึกกันมากเท่าไร จนกระทั่งถึงวันสำคัญของเรา เราได้คุยกันมากขึ้น นอกจากคำพูดด้วยแล้ว สายตาเราสองคนสื่อสารกันมากกว่าความรู้สึก มีแต่ความซาบซึ้ง
เมื่อเช้าเห็นมีน้ำตาด้วย?
ใบเตย : หน้าพี่ปั๊บเหมือนอมบ๊วยเลยอ่ะ
ปั๊บ : ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะเราก็เคยไปร่วมงานของพี่ๆ หลายคน เราก็เห็นเขาร้องไห้ เราก็ไม่เข้าใจว่าเขาร้องทำไม เพราะก็คบกันอยู่แล้ว ก็แต่งงานกันแล้ว พอมาวันนี้เราก็พอเข้าใจว่ามันคือความรู้สึกแบบไหน แต่ไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้ คงตื้นตันด้วย และเป็นเรื่องของการขอบคุณสำหรับคนที่มาร่วมงานที่เขาให้เกียตริเรา เราไม่รู้ว่าจะส่งความรู้สึกขอบคุณนั้นกลับไปยังไง เราคิดว่าทำไมเราโชคดีที่มีคนเมตตา มีคนควรสนับสนุน ผมรู้สึกว่าเราโชคดีมาก
จากนางเอกเอ็มวีวันนั้นมาเป็นนางเอกในชีวิตจริงวันนี้?
ปั๊บ : พอผมมานั่งทบทวนดู มันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดฝัน แต่ถ้ากลับไปย้อนดูมันก็มีความน่ารักอยู่ ก็ต้องเป็นเขาอ่ะครับ
ย้อนกลับไปทำไมวันนั้นเราเก็บเขามา ไม่ทิ้งเขาไว้กลางทาง?
ปั๊บ : มันเหมือนจังหวะเลย มันเหมือนว่าผมถ่ายมิวสิควิดีโอเสร็จ ผมก็เห็นน้องเขาน่ารักดี เราทำงานกับนางเอกมิวสิควิดีโอหลายคน ทุกคนก็น่ารัก แต่ก็มีเหตุให้ต้องกลับมาเจอกันอีก แล้วก็โดนบังคับให้ต้องเหมือนต้องเอาความรู้สึกมาอยู่ร่วมในจุดเดียวกันอีก (ในซีรีส์) ใช่ มันน่าจะตรงนั้นแหละที่ผมคิดว่า มันจบเหมือนในเรื่อง คือในเรื่องกลับมาเจอกัน
นางเอกเราเลือกเองไหม?
ปั๊บ : ผมมีส่วนในการเลือกด้วย แต่ไม่ได้เราเลือกเองเลย 100% คือทุกคนก็ช่วยกัน ค่ายด้วย หัวหน้าเราด้วย พี่สันต์เองด้วย คือจังหวะ เพราะตอนแรกจะเป็นน้องอีกคนหนึ่ง แต่น้องเขามีธุระต้องไปต่างประเทศ ก็เลยไม่ได้
(ต้องขอบคุณน้องคนนั้น?) จริงนะครับ เคยเล่าให้เตยฟัง คือมีโทรบอกเลื่อนคิวได้มั้ย อยากได้น้องคนนั้น เขาก็บอกว่าไม่ได้เลย โอเคไม่ได้ แต่คือที่ค่ายก็เคยส่งรูปเตยมาแล้ว แต่เราคิดว่าเตยต้องแพง เพราะตอนนั้นเตยเขาก็เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าไปแล้ว คือด้วยงบประมาณเรตราคาค่าตัว ผมว่าทุกคนที่ทำโปรดักชั่นต้องเข้าใจดี แต่ก็โชคดีที่เขารับ
เราลดราคาให้?
ใบเตย : จำไม่ได้แล้ว
ปั๊บ : ก็ราคาปกติแหละ โอเค ก็คุยกับหัวหน้า
ใบเตย : โค้งสุดท้ายแล้วเนอะ มันต้องถ่ายแล้ว
ปั๊บ : เขาคาแร็กเตอร์ตรงด้วยครับ
ตอนนั้นเป็นนางเอกเอ็มวี ตอนนี้เป็นนางเอกในชีวิตจริง คิดไหมว่าจะมีวันนี้?
ใบเตย : เรื่องนี้เตยกับพี่ปั๊บคุยกันค่อนข้างจะบ่อย แล้วด้วยในช่วงเวลาระหว่างทางที่เราคบกันมา มันมีเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์เกิดขึ้น ซึ่งเหมือนพอเรามาตกตะกอนดูแล้ว คุยกันจนรู้สึกว่าหลายๆ เรื่องมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่มันเกิดขึ้น
ปั๊บ : ใช่ มันมีหลายเรื่อง ถ้าเล่าแล้วมันอาจจะดูเว่อร์ๆ
ยกตัวอย่างที่ไม่ใช่เหตุการณ์ความบังเอิญ แต่เป็นพรหมลิขิต?
ปั๊บ : ล่าสุดที่เราไปเจอพี่ที่เราเคารพคนหนึ่งเขาทำงานในโปรดักต์ที่เราทั้งสองคนเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์เหมือนกัน แล้ววงโปเตโต้ก็เกิดจากโฆษณาชิ้นนี้ เตยก็เกิดจากโฆษณาชิ้นนี้ เราถูกยอมรับและมีคนรู้จักจากโฆษณา แล้วก็มาเจอกันผมก็ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อ ตัวเตยเองก็ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์อีก มันก็แปลกดีเนาะ เป็นเรื่องน่ารักดี รวมถึงเรื่องอื่นๆอีกที่มีเยอะเหมือนกัน ผมเล่าไปแล้วมันจั๊กจี้ดี (ยิ้มเขิน) แต่มันเป็นจังหวะชีวิตแหละ
อะไรที่ทำให้ปั๊บประทับใจเตย คนนี้แหละคือคู่ชีวิต?
ปั๊บ : ผมว่าเขาน่ารัก อันดับแรกคือหน้าตาเขา รอยยิ้มเขา เราเห็นแล้วเรารู้สึกสบายใจ สิ่งสำคัญมากไปกว่านั้น มันเป็นเรื่องของความกตัญญู สิ่งที่เขาต้องเสียสละให้ครอบครัว พอเราได้คุยเราก็ได้รู้ว่า คนที่เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สุขสบาย เรารู้สึกดี ผมเองอาจจะไม่ได้ลำบากมาก แล้วมีพ่อแม่ที่ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย เราพอมีพอกิน แต่เตยเขาเหมือนเลี้ยงทั้งครอบครัว เราก็รู้สึกว่าเราอยากดูแลเขา รู้สึกเท่ดี
แล้วเตยล่ะ ทำไมถึงเลือกพี่ปั๊บเป็นคู่ชีวิต?
ใบเตย : สิ่งที่เตยประทับใจพี่ปั๊บตั้งแต่แรกก่อนที่จะคบกัน คือพี่ปั๊บเป็นคนให้เกียรติไม่ว่าจะเป็นใคร อย่างเวลาเราอยู่ในกองถ่าย พี่ปั๊บให้เกียรติทุกคน พี่ๆ ที่เป็นทีมสวัสดิการ ช่างไฟ คือพี่ปั๊บน่ารักกับทุกคน แล้วพี่ปั๊บก็ให้ความสำคัญในทุกๆ ตำแหน่ง ตัวเตยเองก็เคยทำงานเป็นเอ็กซ์ตร้าค่าตัว 800 500 เราก็พอเข้าใจว่าตำแหน่งเราเป็นการเติมเต็มงานให้มันได้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด แต่พอเราเห็นว่าพี่ที่เขาเป็นเบอร์ใหญ่มากๆ ที่ให้เกียรติคนตัวเล็กๆ ให้เกียรติคนที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน เรารู้สึกประทับใจเขาตรงนี้ด้วย และอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนที่จะคบกันช่วงแรกๆ เขาบอกเตยว่า เราเต็มที่นะ วันนี้เราเต็มที่ยังไง ถึงแต่งงานไปมันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาเต็มที่ตั้งแต่วันแรกตั้งแต่ที่คบกัน ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ
วางแผนชีวิตครอบครัวหลังจากนี้ยังไงบ้าง?
ปั๊บ : วันมะรืนผมไปเล่นคอนเสิร์ตแล้ว ผมต้องไปทำงานต่อ ใจผมก็อยากมีลูกเหมือนกัน แต่เตยตอนนี้ก็ติดถ่ายละครอยู่ด้วย มีลูกตอนนี้อาจจะไม่ดี แต่กว่าจะถ่ายเสร็จก็...(มีเลย?) ได้ อยากมีเร็วๆ
ใบเตย : อยากมีค่ะ แต่เดี๋ยวขอเคลียร์งาน เคลียร์อะไรต่างๆ ให้โอเคก่อน แล้วค่อยว่ากัน
มีแพลนไว้ไหมว่าเมื่อไร?
ปั๊บ : โอ้โห...ก็อยู่ที่น้ำยาผมด้วย ก็ต้องพยายาม แต่ก็เช็กร่างกายแล้ว
ใบเตย : อู้หู้ว
มีการวางแผนเรื่องฮันนีมูนไว้ไหม?
ปั๊บ : ไม่เลย ตอนนี้แค่เหมือนต้องทำงานแล้ว เพราะช่วงก่อนหยุดมาพักใหญ่ แล้วก็เห็นหน้ากันบ่อยมาก ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเห็นแล้วด้วยเพราะว่าทำงานหนักทั้งคู่
ใบเตย : อาจจะเป็นเพราะว่าเราสองคนเดินทางกันบ่อย ค่อนข้างเยอะก่อนหน้านี้แล้วด้วย เลยไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องฮันนีมูนที่ไหน
ธีมงานวันนี้เป็นยังไง?
ปั๊บ : เหมือนรวมสิ่งที่ผมกับเตยชอบ เวลาไปเที่ยวผมชอบถ่ายรูป ผมก็อยากเอารูปมาใช้ เราชอบวาดรูปก็เอารูปวาดมาใช้ เราชอบงานศิลปะเล็กๆ น้อยๆ ราก็เอามาผสม เราอยากให้คนเข้ามา ไม่อยากให้เหมือนมางานแต่ง เหมือนมาแล้วสบายๆ เหมือนมาดู มาฟังเพลง มาคุยกัน มาดูแกลเลอรี่ เอาเพื่อนมาเจอกัน อธิบายไม่ถูกเลย เหมือนมายำๆ เต็มไปหมดเลย
ใบเตย : อยากให้ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ใหญ่ เขาได้เห็นสถานที่ที่เราเคยไปเที่ยว ให้เขาได้เห็นประสบการณ์คล้ายๆเรา ที่เคยได้เห็นได้ไปเที่ยวมาก่อน รูปในงานนี้คือรูปที่พี่ปั๊บถ่ายเอง อาจจะมีเอามาเพิ่มสี เพิ่มอะไร
ไม่เห็นมีรูปเตยหลับตาเลย?
ปั๊บ : ไม่น่ามีมั้ง (หัวเราะ)
ใบเตย : ขอเถอะค่ะวันนี้
หลังจากนี้แต่งงานไปจะมีอีกไหม?
ปั๊บ : ทีนี้อิสรภาพแล้วแหละ (หัวเราะ) บางทีมันต้องนิดนึง
วันนี้มาถึงแล้วมีคุยเรื่องคำมั่นสัญญาไหม?
ปั๊บ : ผมคิดว่าการแต่งงานเป็นอีกหนึ่งสถานีที่ตัวผมเองรู้สึกว่ามันเดินมาถึงแล้ว หลังจากนี้ผมว่าเรายังต้องศึกษาแล้วก็เรียนรู้ทำความเข้าใจกันไปเรื่อยๆ ผมกับเตยรู้สึกสิ่งนึงที่ทำให้เรายังค่อยๆ ใช้ชีวิตไปด้วยกัน ไม่อยากใช้คำว่าประคอง เราร่วมด้วยช่วยกันไปเรื่อยๆ เหมือนเราพยายามปรับตัวอยู่ตลอดเวลาในสิ่งที่ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในตามความเป็นจริงครับ เมื่อก่อนวันนึงเราอาจจะโทรหาเขา 10 รอบ แต่ว่าวันนี้อาจจะเหลือ 3 รอบ แต่มันไม่ได้แปลว่า 3 รอบนี้ มันเกิดจากความไม่เข้าใจ มันเกิดจากบางสิ่งที่อาจจะทำให้มันเป็นแบบนั้นคือผมว่าเราพยายามปรับตัวไปเรื่อยๆ ดีกว่า ผมตั้งมั่นว่า ไม่ว่ามันจะร้ายหรือมันจะดีก็จะอยู่เป็นบัดดี้ไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้เขาต้องกังวลเยอะ ลุยไปเต็มที่ ล้มเราก็จะล้มไปด้วยกัน ลุกเราก็ลุกไปด้วยกัน ผมว่ามันน่าจะเป็นหลักยึดที่เวลาเราเถียงกัน ผมยังรู้สึกว่าอาจจะเป็นวันไม่ดี แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด มันยังมีวันที่ดีเหมือนกัน เราจะพยายามคุยกันแบบนี้ สำหรับผมนะครับ จะดูแลไปเรื่อยๆ รักเตยแหละ
ใบเตย : (น้ำตาไหล) เราคุยกันตลอด เราคุยกันแบบจริงจังเรื่องพวกนี้ตลอด เตยเชื่อเรื่องวันนี้ เตยไม่เชื่อเรื่องตลอดไป เพราะสุดท้ายต่างคนต่างก็ต้องจากกัน แต่เตยจะทำทุกๆวัน ให้มันดีที่สุดเท่าที่เตยจะทำได้
ปั๊บ : ดีมากครับ