ทำเอาหัวใจพองฟูอีกครั้งสำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ จิ๊ก เนาวรัตน์ ในวัย 62 ปีเมื่อเพื่อนสาวสุดซี้ แอ๊ว อำภา แนะนำสาวหล่อมาให้รู้จักแต่ดั้นไม่ใช่สเปค แถมเจ้าตัวยังโดนเพื่อนสนิทเม้าท์ว่าเจ้าตัวนั้นขี้งกตัวแม่!! ทั้งนี้ จิ๊ก เนาวรัตน์ ยังเล่าประสบการณ์สุดหลอน...ตอนแต่งหน้าศพอีกด้วย
.ทำไมช่วงนี้สวยเหลือเกินหรือว่าเอาไว้รอรับแฟนทอมที่คุณแอ๊วเขาจะดิวมาให้?
พี่จิ๊ก :"คือเรื่องทอมเป็นเรื่องที่ไม่ได้อะไรหรอก คือพี่แอ๊วเคยโทร.คุยก็บอกว่าพี่จิ๊กชอบทอมไหม มีทอมเยอะแยะเลยนะเขาชอบพี่จิ๊ก ถ้าพี่จิ๊กสนใจโอเคเลยจะติดต่อให้"
.อายุประมาณเท่าไหร่พี่?
พี่จิ๊ก :"ทอมเหรอ ก็ประมาณกลางๆ คน โสดไม่โสดเราไม่รู้ แต่นี่จะแนะนำให้เพราะพี่แอ๊วเขาจะมีแฟนเป็นทอมไง"
.แล้วคุณแม่ตอบพี่แอ๊วไปว่ายังไง?
พี่จิ๊ก :"ไม่ใช่สเปคทอม ทำไม่เป็น"
.สุดท้ายคือชอบผู้ชาย?
พี่จิ๊ก :"ชอบผู้ชายไหม สุดท้ายคือมนุษย์เรามีคู่ คู่ก็คือผู้ชายแต่ตอนนี้เราก็ไม่เอาคู่ ไม่เอา"
.ไม่ลองเปิดใจคุยก่อนหรอคุณแม่?
พี่จิ๊ก :"แต่ก็ดีทั้งนั้นแหละ หญิงจะรักกัน ผู้ชายรักกัน มันก็โอเคนะ แต่ใจมันไม่ไปไงมันก็ไปไม่ได้ไง"
พี่จิ๊ก : "ใช่อันนี้ถูกต้อง เขากลัวว่าถ้าวันหนึ่งเขามีคู่ไปแล้ว เราจะต้องอยู่คนเดียวไม่มีใครอยู่ข้างเคียง ถามว่าเหงาไหม จริงๆ ต้องจัดตารางนะพอเราไม่มีคู่มันก็ลำบากนะ จัดตารางตัวเองว่าไม่ให้เหงา ช่วงนี้ต้องทำอะไรช่วงนี้ดูหนัง ช่วงนี้ออกกำลังกาย แล้วก็ช่วงนี้ต้องไปวัด ช่วงนี้ต้องไปทำงานช่วงนี้มีรายการ ช่วงนี้ต้องทำอะไรอย่างนี้ มันจะวนเวียน"
.แล้วถ้าสมมติมีแฟนต้องจัดตารางอีกไหม?
พี่จิ๊ก :"ถ้ามีแฟนก็ต้องจัดตาราง ต้องหาความสุข ไปเที่ยวกัน"
.งั้นเราตัดทอมไปนะไม่ใช่สายพี่อยู่แล้ว?
พี่จิ๊ก :"คือทอมก็ดีไม่ใช่ไม่ดีนะคะก็อยากได้ทอม แต่ว่าพอดีพี่ไม่ใช่สเปค"
.ผู้ชายแบบไหนที่จะเข้ามาในชีวิตแบบพี่ได้?
พี่จิ๊ก :"พี่ก็ชอบผู้ชายไม่ใช่ไม่ชอบ พี่เป็นคนชอบผู้ชายฉลาดพี่เป็นคนชอบคนอายุเยอะกว่า เพราะพี่ไม่ชอบเด็ก 1.ไม่ใช่ไม่ดีนะเพราะถ้าเราชอบเด็กแล้วพี่กลัวว่าลูกพี่จะไม่ชอบ ลูกพี่จะมองพี่ไม่ดีแล้วบรรดาเพื่อนๆ พี่จะทำให้พี่รู้สึกเหมือนกับว่า เห้ย...จิ๊กเปลี่ยนไปหรอชอบเด็ก"
.คำว่าเด็กของพี่คืออายุเท่าไหร่?
พี่จิ๊ก : "40,30, 50 ก็ไม่เอา พี่ว่าผู้ชาย 50 เป็นผู้ชายที่เลือกเยอะแต่บางทีเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกฝ่ายเดียว เราต้องมีสิทธิ์ที่ต้องเลือกด้วยพี่จะไม่เป็นทาสให้คนมาเลือกพี่ พี่ต้องเป็นคนเลือกเขา"
.เคาะไว้ที่ 60 ได้ไหม?
พี่จิ๊ก : "60ต้องเป็นคนที่เมียตายแล้ว มีลูกไม่มีลูกมันไม่เกี่ยวหรอก เพราะว่าถ้า 60แล้วลูกก็ต้องแก่แล้ว พี่จะบอกอะไรให้ฟังไหม ตอนโควิดที่เกิดขึ้นเขาว่าพี่เป็นคนขี้เหนียว"
พี่จิ๊ก : จริงแต่พี่ก็ไม่สนใจนะใครจะว่าพี่ เพราะว่าพี่ถือว่าวันและเวลาที่เราไม่ได้มีงานทำ 3-4เดือน เราต้องควักของเก่ามากิน
.มีผลกระทบไหม?
พี่จิ๊ก :"ผลกระทบทุกคนนะ พี่ต้องเอาเงินเก่าๆ ที่เก็บมาใช้ถ้าเราไม่งกเราจะไม่มีมาถึงวันนี้"
.พี่ขี้งกยังไง?
พี่จิ๊ก :"คุณพี่จะซซื้ออะไรก็ต่อเมื่อเพิ่งซื้อ ถ้าอะไรไมม่จำเป็นคือพี่จะไม่แตะต้องถ้ากระเป๋า เสื้อถ้าจะซื้อมาก็ต้องคำนวณก่อนว่าเราจะมาใส่รายการนี้ได้ค่าตัวเท่าไหร่แล้วชุดนี้จะคุ้มไหม จะใส่ได้กี่งานแล้วพอใส่เสร็จแล้วเราควรไปทำอะไรกับของตรงนั้น คุณพี่เป็นแบบนี้คุณพี่ไม่ฟุ่มเฟือยนะ แต่กระเป๋าราคาแพงๆ คุณพี่ก็มีนะ แต่คุณพี่ก็ไม่ได้ซื้อเพื่อนซื้อให้คุณพี่ คุณพี่ไม่ค่อยถือหรอก เพราะเสียดายกลัวมันพัง"
.แม่ค้าเม้าท์กันว่าจิ๊กเนาวรัตน์ ต่อราคาจนยกแผงหนีเลย จริงไหม?
พี่จิ๊ก :"พี่ก็ต่อของพี่ไปเรื่อย เขาให้ก็ให้ เขาไม่ให้ก็ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็ขำๆไม่เป็นไรหรอก เอาเท่าไหนก็เท่านั้น เพราะเขาจะพูดว่าอย่าต่อเลยคุณเนวรัตน์ชั่วโมงนี้ลำบากไปตามๆ กัน"
.พี่ยังแต่งหน้าศพอยู่ไหม?
พี่จิ๊ก :"ยังแต่งอยู่ค่ะ แต่ว่าตอนนี้มันจะน้อยลงเพราะว่าเขาจะไม่ให้ไปยุ่งวุ่นวายมาก เพราะมันเป็นช่วงโควิด"
.พูดถึงศพก็ขนลุกมีเรื่องลี้ลับบ้างไหม?
พี่จิ๊ก :"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ พูดแล้วขนลุก คือการที่เราไปทำอะไรสักอย่างโดยที่เราไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง แต่เราจะสัมผัสจิตกันได้วันหนึ่งเราจะแต่งหน้าศพหลายศพ แต่ ณ วันหนึ่งพอเราแต่งแล้ว สมมติเด็กเล็กๆน่ารักมาก เขาตายไม่ถึงเดือน เด็กคนนี้เกิดมายังไม่เรียกแม่ พ่อเลย คุณแม่ก็เอาแก้มทาแล้วมาแต่งให้อีกคนหนึ่งต่อ พอแต่งไปแต่งมาเหลือบไปดูเอ้า...เมื่อกี้เราวางน้องคนนี้เรียงตรง แต่จู่ๆ น้องมาขวางขวางได้ยังไงเตียงมันยาวมันกินที่ แต่ตัวน้องไปเอง ก็งงแต่ไม่รู้ทำไงเหลือบไปดูนาฬิกา ตอนนั้น 9.45 นาที ธรรมาเราแต่งอะไรแบบนี้เราจะไม่ดูเวลาเลยทำไปเรื่อยๆ มีกี่ศพก็แต่งไป"
.แล้วระหว่างที่แต่งอยู่กับใคร?
พี่จิ๊ก :"คนเดียว แล้วระหว่างที่แต่งเสร็จเอาคุณป้ามานอนริม แล้วก็แต่งคุณลุงต่อคุณลุงมานอนติดคุณป้า เหยียบเตียงรู้ไหมเตียงคุณป้าสามารถไหลไปได้ก็วิ่งจับเตียงแทบตาย คิดได้ทันทีว่าคุณป้าไม่ยอมนอนข้างคุณลุงเพราะเขาไม่รู้จักกัน แล้วเขาแก่พอกัน แล้วเหมมือนมานอนคู่กันเขาไม่เอาแต่เด็กขวาง ทำให้คิดว่า มัน 9.45 น. มันเกี่ยวอะไร เพราะเราไป 8โมงก็ไม่ได้เกี่ยว แต่ใจก็คิดไปถึงอย่างอื่น แต็ไม่ได้ทำ มันเป็นเลขติดใจกลับมาบ้านก็ติดใจ จนปัจจุบันพอลอตเตอรี่ออกกลายเป็นเลขลอตเตอรี่ แต่ไม่ได้บอกใครแต่เราเป็นคนไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ลอตเตอรี่ยังซื้อไม่เป็น"
.พี่คิดว่าพอหมดช่วงโควิดจะเลิกแต่งหน้าศพไหม?
พี่จิ๊ก :"ไปเรื่อยๆ ค่ะ แล้วแต่บุญว่าสนาชนกัน แต่งหน้าศพถ้าบุญวาสนาชนกันก็ได้ไปสัมผัส แต่ถ้าบุญวาสนาไม่เจอกันก็คือไม่เจอ"
.ทำไมคุณแม่อุทิศตัวไปทางแต่งหน้าซึ่งต้องเอาตัวเองไปคลุกคลีใกล้กับร่างที่ไร้วิญญาณ ซึ่งน่ากลัวมาก?
พี่จิ๊ก : "จริงๆไม่ได้น่ากลัวนะ คนเราเป็นมนุษย์อยู่อย่างนี้ทำไมถึวได้คุยกันได้ แต่ ณวันหนึ่งที่เขาดับสลาย หัวใจไม่ทำงานแล้ว ทำไมเราต้องบอกเขาว่าเขาเป็นศพแล้วทำไมถึงกลัวเขา ต้องไม่กลัวต้องทำให้เขาเป็นปกติเหมือนมนุษย์ธรรมดาที่เขาหลับไปแล้วเขาได้บุญแล้วนะเขาจบทุกสิ่ง ทุกอย่าง เราจะต้องมองเขาว่าเขาขึ้นสู่สวรรค์ อย่าไปกลัว มันจะไม่ได้เราจะมองเขาว่าเขาสวย หล่อ สุดท้ายชีวิตจบแล้วในโลกใบนี้ ไปอยู่ภพหน้าเราก็ต้องส่งเขาไปให้ดีพอหลังจากนั้นเราก็จะมีความรู้สึกว่าเขาหมดทุกข์หมดโศกทุกอย่าง"
ขอบคุณข้อมูลจากรายการคุยแซ่บShow