
พร้อมกับโยงถึงการออกจากวงของ "แนทเธอรีน-ดุสิตา กิติสาระกุลชัย" และ "อุ้ม-ณัชชา กฤษฎาสิมะ" สมาชิกรุ่นที่ 2 ที่ได้เห็นชอบให้จบการศึกษา แต่มีเงื่อนไขต้องเข้ามาเจรจาต่อหลังการประกาศ เพื่อหาข้อตกลงร่วมกันให้เรียบร้อย จึงจะสามารถสิ้นสุดสัญญาได้ แต่การเจรจายังไม่สิ้นสุดยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกัน จึงยังไม่มีผลยกเลิก
ล่าสุด คุุณพ่อของแนทเธอรีน ก็ได้ลุกขึ้นมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวตอบโต้การชี้แจงไว้ว่า
"วันนี้ได้อ่านข้อความชี้แจงจาก กรรมการผู้จัดการของบริษัทฯ ที่ท่านออกมาเขียนว่า "น้องแนทเธอรีน บริษัทฯอนุญาตให้จบการศึกษาได้ (ยกเลิกสัญญา) โดยมีเงื่อนไขให้เข้ามาเจรจาต่อ หลังการประกาศ โดยขณะนี้ยังเจรจาไม่สิ้นสุด และยังไม่ได้ข้อตกลงร่วมกัน สรุปก็คือต้องทำสัญญาใหม่ เมื่อยังไม่ยอมทำสัญญาใหม่จึงยังไม่มีผลยกเลิก"
ข้อเท็จจริง ในฐานะพ่อ อยากบอกว่า น้องได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาไปแล้ว บริษัทมีหนังสืออนุมัติการลาออกแล้ว ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ และน้องได้ทำหนังสือตอบรับวันที่บริษัทอนุมัติให้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว ดังนั้นถือว่า สัญญาฉบับเดียวที่ลงนามกันไว้จะมีผลสิ้นสุดลงในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 24.00 น. แน่นอน
ส่วนเรื่องที่บริษัทฯต้องการทำข้อตกลงร่วมกัน หรือการเจรจา สรุปก็คือการทำสัญญาใหม่นั้น ทางน้องไม่ประสงค์จะทำสัญญาใดๆกับทางบริษัทเพิ่มอีก นอกจากต้องการยกเลิกสัญญาที่มีอยู่เท่านั้น
หากสุดท้ายแล้วทางบริษัทฯยังยืนยันว่ายังไม่อนุมัติการยกเลิกสัญญา อาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยสัญญาตั้งแต่ฉบับแรกเพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ทางบริษัทฯได้อนุมัติให้น้องลาออกในวันที่ 17 นี้แล้วจริงๆ"
ก่อนจะบอกต่อด้วยว่า "การยกเลิกสัญญาไม่จำเป็นที่ทั้งสองฝ่ายต้องทำข้อตกลงหรือสัญญาใดๆกันอีกนะครับถ้าอีกฝ่ายไม่ต้องการหรือไม่เห็นด้วย
ดังนั้นที่คนบางคนบอกว่า ยังไม่ได้ทำสัญญาออกนั้น เป็นการเข้าใจที่ผิดนะครับ เพราะการทำสัญญานั้นต้องชอบด้วยกฎหมาย ด้วยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างกัน เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หนือระงับซึ่งสิทธิ โดยสรุปคือคำเสนอกับคำสนองต้องตรงกัน ไม่ใช่เสนอฝ่ายเดียวอีกฝ่ายไม่สนองก็จะบังคับให้สนอง
และเมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิยกเลิกสัญญาก็เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 ซึ่งบัญญัติว่า " เมื่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม" ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากบทบัญญัติของกฎหมาย เมื่อน้องได้ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว บริษัทจำต้องให้น้องคืนสู่สถานะเดิมก่อนการลงนามทำสัญญากัน"
หลังจากนั้น พ่อของไอดอลสาวก็ยังได้พูดคุย ถาม-ตอบ กับแฟนคลับของลูกสาว รวมถึงโอตะอีกหลายรายในหลากกรณี ทั้งนี้เมื่อมีคนได้สอบถามถึงตัวสัญญานั้น คุณพ่อก็ว่าไม่สามารถให้ดูได้ แต่หากท้ายที่สุดแล้วยังตกลงกันไม่ได้ ก็น่าจะได้มีการขึ้นศาลอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน คุณพ่อของอุ้ม ก็ได้โพสต์ข้อความกรณีดังกล่าวเช่นกัน และยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับทางฝั่งของแนทเธอรีนอีกด้วย โดยมีใจความว่า
เมื่อวานนี้ได้อ่านโพสต์ของผู้บริหารแล้ว รู้สึกผิดหวังครับ เพราะแทบไม่อยากเชื่อว่าจะโพสต์ในลักษณะนี้ออกมา ต้องขอขอบคุณคุณพ่อน้องแนทเธอรีนที่ออกมาต่อสู้เพื่อเด็กๆ
สถานการณ์ของน้องอุ้มก็เหมือนกับของน้องแนท เรามีหนังสือยกเลิกสัญญาและหนังสือที่บริษัทอนุมัติให้ยกเลิกสัญญาอยู่ในมือ โดยที่ระบุให้ยกเลิกได้ในวันที่ 17 กุมภานี้เรียบร้อยแล้ว ทำไมจึงออกมาโพสต์ยกเลิกหนังสืออนุมัติของตนเอง
น้องอุ้มก็มีความประสงค์ที่ต้องการยกเลิกสัญญาที่มีอยู่ และไม่ต้องการทำสัญญาฉบับใหม่เพิ่่มเติมเช่นกันครับ
ทั้งนี้ "แนทเธอรีน ดุสิตา" และ "อุ้ม ณัชชา" ได้ประกาศจบการศึกษาพร้อมกันระหว่างการแสดงที่โรงละคร BNK48 เมื่อวันที่ 17 ม.ค. โดย "อุ้ม" ระบุขอลาออกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 ส่วน "แนทเธอรีน" ได้ขอลาออกตั้งแต่ช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 คนจะเข้าร่วมกิจกรรมสุดท้ายในงานจับมือ BNK48 77 ดินแดนแสนวิเศษ Handshake วันที่ 16 ก.พ.ขณะที่เวทีจบการศึกษายังไม่มีการประกาศที่แน่ชัด โดย "อุ้ม" ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Oom BNK48 ระบุว่า ตนได้ติดต่อสอบถามเรื่องกำหนดการของสเตจไปตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์แล้ว เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงการชนวันสอบ จะได้จัดการเวลาได้ง่ายขึ้น แต่ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน ซึ่งทางฝั่งของตนไม่สามารถยืนยันให้ได้นะ ว่าตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.เป็นต้นไปจะยังสามารถขึ้นเวทีได้ เพราะสถานะความเป็นเมมเบอร์จะคงอยู่ถึงวันที่ 16 ก.พ.ที่จะถึงนี้เท่านั้น