
วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ถือเป็นวัดที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันมีอายุกว่า 393 ปี ที่นี่เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2495 วันที่ 9 มีนาคม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงมีวิริยะอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพระราชพิธียกพระจุลมงกุฎสวมยอดพระมณฑปพระพุทธบาทด้วยพระองค์เอง ซึ่งตามคตินิยมอันเป็นโบราณราชประเพณีของอดีตพระมหากษัตริย์ หากพระราชาธิบดีพระองค์ใดเสด็จมาประกอบพระราชพิธีสมโภชพระพุทธบาทในท่ามกลางพสกนิกรของพระองค์เชื่อกันว่า แผ่นดินของพระราชาธิบดีพระองค์นั้น ย่อมประสบความเจริญรุ่งเรืองสมบูรณ์พูลสุขทุกประการ และเมื่อปี พ.ศ.2552 ในหลวงรัชกาลที่9ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จมหาวชิราลง บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ประกอบพระราชพิธียกพระจุลมงกุฎสวมยอดพระมณฑปพระพุทธบาทและสมโภชพระพุทธบาท ซึ่งพระมณฑปพระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นพุทธสถานที่มีมหาเจดีย์ที่สำคัญยิ่งของไทย พระมหากษัตริย์ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นอกจากประกอบพระราชพิธียกพระจุลมงกุฎสวมยอดพระมณฑปพระพุทธบาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ยกช่อฟ้าพระอุโบสถเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2503 และ ปี พ.ศ.2552 ในวันพุธที่ 24 มิถุนายน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชพิธีเสื่อเงินและยกช่อฟ้าพระอุโบสถ วัดพระพุทธบาทด้วยเช่นกันครั้งนี้ทีมข่าวของเราได้มีโอกาสเข้ามาถวายสังฆทานพระสงฆ์ 9 รูป ในพระอุโบสถที่วัดพระพุทธบาท เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และกราบสักการะรอยพระพุทธบาทเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต นับเป็นสรรพสิริมงคลอันประเสิรฐยิ่งสำหรับชาวไทยทุกคน ที่มีพระราชาผู้ทรงธรรม อย่างในหลวงรัชกาลที่ 9มุกระวี ดีบุกคำ ทีมข่าวศิลปวัฒนธรรมเนชั่นทีวีรายงาน