
อ๊อฟ : สืบเนื่องมาจากในละครที่ได้รับการตอบรับจากผู้ชมกันเยอะและอยากให้ทำภาคสอง จริงๆ แล้วไม่ได้มีไอเดียแต่พอดี "คุณตาเทพ ตรี อภิรุม" ท่านเขียนภาคสองขึ้นมา ก็เลยมีไอเดียว่าน่าจะทำเป็นภาพยนต์ได้ เลยปรึกษากัน
(ออฟ พงษ์พัฒน์)
ทำไมถึงเป็น "ณเดชน์" และ "ญาญ่า" เห็นอะไรในตัวทั้งสอง
อ๊อฟ : จริงๆ แล้วผมไม่ได้สนใจว่านี่คือ "ณเดชน์" หรือ "ญาญ่า" ผมไม่ได้สนใจว่านี่คือ"แต้ว" หรือ "เคน" เราไม่ได้สนใจใครเลย เราสนใจแค่ว่านักแสดงท่านหนึ่งทำงานกับเราทุกเรื่องตั้งแต่ทำงานมา เพราะฉะนั้นณเดชน์ ญาญ่าคือคนที่ปั้นขึ้นเป็นตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนั้น เหมือนที่ผ่านมาทุกๆ ครั้ง และเห็นว่าทั้งสองเหมาะกับตัวละครที่เป็นนางเอกและพระเอก
(ญาญ่า และ ณเดชน์)
เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร
อ๊อฟ : จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องของชะตากรรมของมนุษย์ ลิขิตของแต่ละคนซึ่งกรรมทั้งหมดเราเป็นคนสร้าง มนุษย์มีกรรมติดตัวมา ทุกภพทุกชาติ ภาพยนต์เรื่องนี้กำลังพูดถึงกรรม ซึ่งเกิดจากความอาฆาตมาดร้ายของตัวละครบางตัวซึ่งต้องการต่อกรรม ยืดกรรมความอาฆาตมาดร้ายของตัวเองออกไป ทั้งหมดเลยกลายเป็นทุกข์ และมีผลต่อตัวละครตัวอื่น เรื่องราวเกิดขึ้นเป็นการแก้แค้นโดยสร้างเรื่องราวให้เกิดความเสื่อมเสียกับตัวละครตัวเก่า ซึ่งแต้วเล่นไว้จะมีตัวละครตัวหนึ่ง ซึ่งขู่อาฆาตมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว เขามีความโกรธแค้นในการสูญเสียของเขาก็เลยทำให้เกิดเรื่องราวตรงนี้ แต่เรื่องจะจบลงอย่างไรนั้นต้องติดตามกัน
มีทั้งพาร์ทอดีตและปัจจุบัน
อ๊อฟ : มี ตัวละครตัวอดีตครบหมด ส่วน "ณเดชน์" และ "ญาญ่า" เป็นตัวละครปัจจุบัน
(ผู้จัดและเหล่านักแสดง)
จะได้ชมเมื่อไหร่
อ๊อฟ : ในขั้นตอนการสร้างภายในเดือนหน้าเราต้องเปิดกล้องแน่นอน คงใช้เวลาในการถ่ายจริงๆ ไม่เกิน 2 เดือน ประมาณสัก 2 เดือนกว่าๆ ต้องจบแล้ว หลังจากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการทำซีจีก็อาจนานหน่อยเพราะอยากทำให้ดีที่สุด เนื่องจากสิ่งที่สำคัญที่สุดในละครเรื่องนี้ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ นอกเหนือจากตัวละครแล้วยังมีตัวละครที่เป็นซีจีด้วย จึงต้องให้เวลาเขานิดหนึ่ง
(เคน และ แต้ว )
ในฐานะที่เป็นต้นกำเนิด"นาคี"รู้สึกยังไงบ้าง
แต้ว : ตื่นเต้นอยู่แล้ว เพราะอยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ
เคน : ตื่นเต้นนะ อยากรู้เหมือนกับทุกคนเหมือนกัน
อุ้ม : งง เหมือนกัน ไม่ทราบว่าเป็นยังไง
จะได้ยิน "ณเดชน์" และ "ญาญ่า" พูดภาษาอีสานในภาพยนตร์ไหม
ณเดชน์ : ผมเว้าบ่ได้นะ บ่คือ หน้าจังซี้เว้าอีสานบ่ได้
อ๊อฟ : คนนี้ไม่ต้องพูดแต่ต้องคนนี้ (ญาญ่า) ต้องพูด
ญาญ่า:ตื่นเต้นมากๆเพราะหนูเองก็เป็นแฟนคลับนาคีอยู่แล้ว และยิ่งมีโอกาสได้มาเป็นส่วนหนึ่งของหนังก็รู้สึกดีใจมากๆ
"ณเดชน์" ทำการบ้านยังไงบ้าง
ณเดชน์ : ยังไม่ได้ทำเดี๋ยวต้องมานั่งคุยกับพี่อ๊อฟ ส่วนตัวผมเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กับทุกคน และยังอยากฟังพี่อ๊อฟเล่าเนื้อเรื่องอีกหลายๆครั้ง ฟังแล้วรู้สึกมีพลังและขนลุก
รู้สึกนับถือพญานาคขนาดไหน
ณเดชน์ : พอสมควร
ญาญ่า : หนูได้รู้จักจากพี่ณเดชน์ที่ทางบ้านก็ไหว้บูชา
เป็นบทประพันธ์ของ "คุณตาเทพตรี อภิรุม" ทั้งหมดไหม
อ๊อฟ : ส่วนหนึ่งนะ บอกกับคุณตาแล้วว่าเราจะดึงส่วนหนึ่งของเรื่องราวของท่านมาและสร้างเพิ่มเติมเข้าไปด้วย
สถานที่ถ่ายทำ?
อ๊อฟ : ก็คงทางอีสาน
ฟินไหมเพราะเลือกคู่จิ้นมา ?
อ๊อฟ : จริงๆ ผมไม่ได้รู้จักคู่จิ้น หลายคนอาจจะมีว่าเป็นคู่จิ้นเหรอเราก็ไม่ได้สนใจความสำคัญตรงนั้นผมสนใจความสามารถของทั้งสองท่านเอามาใช้งานตรงนี้ดีกว่า เอาเรื่องให้สนุก เอาความหล่อความสวยทิ้งไว้ที่บ้าน เอาความสามารถมาใช้ในภาพยนตร์ให้เราทุกคนมีความสุข อันนี้สำคัญกว่าคู่จิ้นนะ
สุดท้ายอยากให้พูดถึงคำจำกัดความของภาพยนตร์เรื่องนี้
อ๊อฟ : มาดูความรักที่สวยงาม ความรักที่อยู่คู่กับโลกใบนี้ อยู่ตลอดไปและอยู่อีกนานแสนนาน ผมมั่นใจว่าความรักในละครเรื่องนี้สวยงาม