
นี่คือพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเมื่อครั้ง เสด็จร่วมงานเปิดตัวหนังสือพระมหาชนก เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พศ 2539 เมื่อครั้งดำเนินการจัดทำหนังสือพระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนกนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ ให้จัดสร้างเหรียญพระมหาชนกคู่ เคียงกันกับหนังสือไปด้วย
อาจารย์ นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ประติมากร แถวหน้าของเมืองไทย ที่ในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญ ในการ ออกแบบและปั้นต้นแบบเหรียญพระมหาชนก เนื่องในวโรกาสพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์เป็นปีที่ 50 ซึ่งหลังจากที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าเพื่อประชุมงานกับพระองค์ท่าน เค้าก็ทราบได้ทันทีค่ะว่า งานนี้ มันมีความหมายลึกซึ้ง เพียงใด
อาจารย์ยอมรับว่างานนี้ ยากมากค่ะ เนื่องจาก จะต้องถ่ายทอดเรื่องราวจากหนังสือ ลงมาอยู่ในเหรียญเพียงสองด้าน โดยเมื่อครั้งแรกที่ส่งแบบ และ ได้เข้าเฝ้าหัวพระองค์ท่าน ทรงยังไม่ถูกใจ แบบเหรียญ ที่เค้าออกแบบเป็นรูป 3 เหลี่ยม เท่าไหร่นัก ก็ทรงตรัสแบบอ้อมๆ ว่าให้ไปลองคิดดูใหม่
นอกจากผลงานการออกแบบเหรียญพระมหาชนกแล้ว อาจารย์นนทิวรรธน์ ยังมีโอกาสได้รับใช้เบื้องพระยุคลบาทอีกหลายครั้ง อย่างเช่น การปั้นพระประธานประจำวัดพระราม 9 และ การปั้นรูปเหมือนคุณทองแดง ด้วยค่ะ
ปัจจุบัน อาจารย์ นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ได้รับยกย่องให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปี 2549 และยังคงดินหน้าผลิตผลงานปั้น อย่างต่อเนื่อง โดยฝีมือการปั้นของ อาจารย์เป็นที่ประจักษ์ ต่อสายตาชาวโลก จัดแสดงอยู่ ในหลายประเทศทั่วโลก คนไทยเราน่าจะคุ้นเคยกับผลงานของอาจารย์ อย่างเช่น รูปปั้นทองเหลืองชุด เติบโต ที่สวนเบญจศิริ // พุ่มดอกบัวขนาดใหญ่ ผลงาน ประติมากรรม "ปิติสุข" ติดตั้งถาวรหน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA) เป็นต้น
ปัจจุบันอาจารย์ นนทิวรรธน์ อายุ 70 ปีแล้วค่ะ ท่านยังคงสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อจรรโลง และ เพิ่มพลังบวกให้กับสังคมต่อไป โดยมีต้นแบบ คือ องค์อัครศิลปิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นแสงนำใจไปตลอดชีวิตค่ะ