
โต อดีตมือกีตาร์ กะลา เดินหน้าสร้างงานต่อเนื่อง
ล่าสุดนำเพลง ขอครั้งสุดท้าย เดินสายโปรโมทคู่ซิงเกิลใหม่ จบแล้ว
หลังจากหันหลังให้กับค่ายเพลง โต มาโนช พิมพ์จันทร์ อดีตมือกีตาร์วงกะลา ได้เดินหน้าสร้างงานเพลงอย่างต่อเนื่องตามความฝันของตัวเอง ร่วมกับเพื่อนๆ กลุ่มคนรักดนตรีที่ชอบฟังเพลงป๊อบ มากจนเกินขนาด และมีความคิดใกล้เคียงกันมาสร้างสรรค์และถ่ายทอดบทเพลง ที่แต่งมาจากตัวตนและประสบการณ์ที่ปราศจากกรอบกฏเกณฑ์ใดๆ ล่าสุด "ป๊อป โอเวอร์โดส" ได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ออกมาให้ชาวป๊อบได้ฟังแล้ว ชื่อเพลงว่า จบแล้ว
โดย โต บอกเกี่ยวกับเพลง จบแล้ว ว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง เข้าใจ ยอมรับและยอมแพ้ทุกๆ อย่าง หากคนที่รักตัดสินใจแล้วว่าจะลาจาก สิ่งเดียวที่จะทำได้หลังจากนี้ก็คงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ไม่เจ็บปวด และต้องเริ่มชีวิตใหม่ ต้องอยู่ให้ได้เมื่อไม่มีคนที่รักแล้ว ซึ่งเพลงนี้นอกจากจะเป็นมุมมองความรักที่ไม่สมหวัง ซึ่งตนตั้งใจจะทำออกมาเพื่อให้กำลังใจคนที่ไม่สมหวังในความรักให้คิด มีสติ และยอมรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ได้ โดยเพลงนี้นอกจากทางวงจะร่วมกันทำงานกันเองทั้งหมด ทั้งแต่งเนื้อร้อง เรียบเรียงทำนอง ดนตรี และทำมิวสิควิดีโอกันเองหมดทุกขั้นตอน ทำให้ตนและเพื่อนๆ ได้เรียนรู้ถึงการทำงาน เรียนรู้วิธีการเทคนิคและการโปรโมทเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายและสนุกไปกับงานตั้งแต่เริ่มต้นกันเลยทีเดียว ท้าทายดี อยากให้ได้ลองฟังกันดู
และที่พิเศษสุดในการทำงานครั้งนี้ตนได้รวมเพื่อนๆ จากวงกะลาเดิมตั้งแต่ประกวด ฮอตเวฟ มิวสิค อวอร์ด มาทำงานด้วย อาทิ ธีระศักดิ์ อุ่มมล (นุ) เบส, ดารุส ปัญญา (รุส) กลอง ซึ่งนอกจากจะเป็นการหวนคืนวันเวลาและบรรยากาศการทำงานเก่าๆ อีกครั้งหลังจากที่แยกย้ายกันไปทำงานตามแบบฉบับของแต่ละคนนานนับ 10 ปี แล้วยังทำตามกระแสเรียกร้องของเพื่อนๆ ที่รอคอยการกลับมารวมตัวกันของกะลา ซึ่งงานนี้อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นการทำงานใหม่กับเพื่อนวงเก่า อนาคตแน่นอนว่าจะมีผลงานและทำงานร่วมกันอีกแน่นอน
และเพื่อสร้างกระแสเพลงรักที่ไม่สมหวังอย่างต่อเนื่อง ป๊อป โอเวอร์โดส ได้ปล่อยเพลงเศร้าสุดจี๊ดอกกมาอีกเพลงนั่นคือเพลง ขอครั้งสุดท้าย โดยเพลงนี้ โต บอกว่า ตนเขียนเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อบอกและขอร้องผู้หญิงหรือคนที่กำลังอกหัก ว่าหากรักกันและต้องเลิกกันแล้วนั้นขอเถอะ ขอเป็นครั้งสุดท้ายว่าอย่ากลับมาพบกันอีก ซึ่งที่ขอแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่รักนะ แต่กลัวมากกว่า กลัวว่าจะทำใจไม่ได้กลัวว่าจะห้ามใจไม่ให้กลับไปรักอีกไม่ไหว ซึ่งจุดเด่นของเพลงนี้นอกจากความหมายของเพลงและเสียงร้องสุดจี๊ดของแต๊ก ภานุวัฒน์ ศรีอัมพร นักร้องนำแล้ว ยังมีความโดดเด่นของจังหวะที่มีอัตราส่วนการนับจังหวะแบบ 7/4 ในท่อนแรก และ 4/4 ในท่อนฮุคซึ่งยังไม่ค่อยมีวงใดนิยมเล่นนัก ซึ่งเมื่อนำจังหวะแบบนี้มาผสมผสานกันแล้วมันเกิดความลงตัวในแบบร๊อคๆ ได้
ซึ่งโต บอกต่อในเรื่องของเนื้อหากระแทกกระทั้นว่า ด้วยดนตรีที่มีจังหวะโดดเด่นแบบนี้ตนเชื่อว่าจะโดนใจชาว rock ที่กำลังอกหักแบบแมนๆ ได้อยากให้ทุกนลองได้ฟังกันดู เพราะเร็วๆ เราจะปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงนี้ออกมาให้ได้ชมกัน ซึ่งอยากให้ติดตามเพราะทุกขึ้นตอนของการทำงานพวกเราทำกันเองหมดเลย แม้จะไร้สังกัดไร้ค่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและใจรักของพวกเราเชื่อว่าจะโดนใจใครหลายๆ คนที่กำลังเจอสถาการณ์แบบนี้ได้แน่นอน
นอกจากเพลงนี้แล้ว ป็อป โอเวอร์โดส ยังมีผลงานเพลงที่ทำกันเอง มีแนวดนตรีที่เกินขนาด ส่วนผสมของดนตรีป๊อปที่ได้ใจ บ่งบอกถึงสไตล์และตัวตนของวงอีกมากกว่า 20 เพลง อย่าง เพลงโดนประจำ, คืนนั้น, รักบ้างได้ไหม, ในวันที่เหงา, เฟสบุก, แค่อารมณ์อ่อนไหว, ไม่แคร์สื่อ, เจ็บชิลล์ๆ, บุคลิกให้โทษ, ขอครั้งสุดท้าย, ไม่เข้าใจตัวเอง รวมไปถึงอีกหลายๆ เพลง ซึ่งสามารถหาฟังและดูกันได้ที่ www.youtube.com แล้วพิมพ์คำว่า Pop Overdose ch ซึ่งตอนนี้มีผลงานของ ป็อป โอเวอร์โดส ให้ฟังกัน ใครอยากรู้ว่าเพลงของ ป็อป โอเวอร์โดส เป็นอย่างไร สามารถฟังและความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ www.facebook.com/PopOverdoseBand ได้อย่างต่อเนื่อง โต บอก