นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางทองคำในสัปดาห์หน้ากับ Nation STORY ว่า ราคาทองคำช่วงเดือน 1 พ.ค.-10 พ.ค. ปรับตัวขึ้น ประมาณ 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้น 1,000 บาท การชะลอตัวของตลาดแรงงาน ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐ สูงกว่าคาด
นอกจากนี้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. อาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว
ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม
- การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนเม.ย. จะบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราเงินเฟ้อ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด ร่วมทั้ง การประกาศตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานยังเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เช่นกัน
- การแสดงความเห็นของเจ้าหน้าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้า เจ้าหน้าที่เฟด บางท่านมีความเห็นว่า เฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ขณะที่ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 48% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ลงสู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 11-12 มิ.ย.
- จับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง อิสราเอล ปฏิบัติการทางทหารเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสในเมืองราฟาห์ยังคงดำเนินต่อไป เครื่องบินขับไล่ของอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายกว่า 100 แห่งทั่วฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม รายงานว่านายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ได้เดินทางเข้าพบนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เพื่อหารือเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
สำหรับแนวโน้มทองคำสัปดาห์หน้าแกว่ง Sideway หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้ จากเดิม 1 ครั้ง
นอกจากนี้ ทองคำได้รับแรงหนุนจาก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลง หลังจากการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ซึ่งกรรมการ 2 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนคาดว่า BoE อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือน ซึ่งหากเป็นไปตามคาด BoE ก็อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยพร้อมกับ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ว่าราคาจะสร้างระดับสูงสุดใหม่จากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่แรงซื้อเริ่มจำกัด ระยะสั้นราคามีโอกาสที่อ่อนตัวลงช่วงสั้น แนะนำเสี่ยงเปิดสถานะขายหากราคาปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 2,377-2,392 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาผ่าน 2,392 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งปิดสถานะขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับโซนที่ 2,346-2,335 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์แต่หากหลุดสามารถถือสถานะขายต่อ
อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวต้านแรกที่ 2,377 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านถัดไปที่ 2,392 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวต้านสุดท้าย 2,410 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่แนวรับแรกที่ 2,335 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไปที่ 2,317 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับสุดท้าย 2,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์