นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า กทพ.เตรียมเสนอครม. พิจารณาอนุมัติ 4 โครงการลงทุนทางด่วนสายใหม่มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ในเร็ว ๆ นี้ หากครม.เห็นชอบขั้นตอนต่อไปจะเริ่มเปิดประกวดราคางานก่อสร้าง โดยเป็นโครงการที่มีความพร้อมในผลการศึกษา และมีความคุ้มค่าด้านการลงทุน เชื่อว่าจะเป็นโครงการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในประเทศ
ทั้งนี้ 4 โครงการทางด่วนประกอบด้วย
1.โครงการทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยายช่วงจตุโชติ – ลำลูกกา
- ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร
- วงเงินลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท
2.โครงการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (Double deck) ช่วงงามวงศ์วาน – พญาไท - พระราม 9
- ระยะทาง 17 กิโลเมตร
- วงเงินลงทุน 34,028 ล้านบาท
3. โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ
ระยะที่ 1 (ตอน N2 ถ.ประเสริฐมนูกิจ - ถ.วงแหวนรอบนอกฯ ด้านตะวันตก) หรือปัจจุบันปรับชื่อโครงการเป็นโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก
- ระยะทาง 11.3 กิโลเมตร
- วงเงินลงทุน 16,960 ล้านบาท
4. โครงการทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต
ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้ - ป่าตอง
- ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร
- วงเงินลงทุน 14,670 ล้านบาท
ระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่ - เกาะแก้ว – กะทู้
- ระยะทาง 30.62 กิโลเมตร
- วงเงินลงทุน 42,633 ล้านบาท
สำหรับโครงการทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ - ถนนลำลูกกา จะเป็นโครงการนำร่องเปิดประมูลก่อน โดยสถานะปัจจุบัน กทพ.อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา (TOR) คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ เพื่อประกาศขายซองเอกสาร TOR ภายในเดือน เม.ย.67 หลังจากนั้นจะลงนามสัญญากับเอกชน และเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี 67 ใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปีแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการประมาณปี 70
ซึ่งกทพ.จะใช้เงินลงทุนประมาณ 19,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนของงานโยธา 18,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินลงทุนจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFF) 14,374 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4,000 ล้านบาท จะจัดสรรจากเงินกู้
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลังในการจัดหาแล้วพบว่าไม่มีปัญหาติดขัด เนื่องจาก กทพ.มีผลการดำเนินงานเป็นบวกต่อเนื่อง ขณะที่ส่วนของงานติดตั้งระบบทางด่วน คาดว่าจะใช้วงเงิน 1,000 ล้านบาท