
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า การร่วมงานกับ ‘ลิซ่า’ ในฐานะ Amazing Thailand Ambassador ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการนำเสนอเสน่ห์ ความหลากหลายและความมหัศจรรย์ของเมืองไทยในมุมมองใหม่ที่จะทำให้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมค้นพบไปพร้อมกันกับ Amazing Thailand ททท. มุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีคุณภาพและปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอย่างอบอุ่นสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวท่องเที่ยวชั้นนำคุณภาพสูง (Quality Leisure Destination) และสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางมาสร้างความทรงจําที่มีคุณค่าและไม่รู้ลืมในทุกย่างก้าวของการเดินทาง
บทบาท “Amazing Thailand Ambassador” ของ “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาลในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย ด้วยผลงานและความสำเร็จของเธอที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก นอกจากนี้ เธอยังเป็นเสียงอันทรงพลังที่จะบอกเล่าเรื่องราวของความงดงามและเอกลักษณ์ไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การที่ ททท. พร้อมทั้งแบรนด์ “Amazing Thailand” ได้ร่วมงานกับ “ลิซ่า” ในครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างความสนใจในการท่องเที่ยวของประเทศไทย แต่เป็นการตอกย้ำคุณค่าของวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน รวมถึงความอบอุ่นและความไมตรีจิตของคนไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในทุกมิติว่า “ประเทศไทย” คือจุดหมายปลายทางที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่จะสร้างความประทับใจกับผู้มาเยือน
“ลิซ่าจะเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวของไทย ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์โปรโมตการท่องเที่ยว นำส่งความภาคภูมิใจของไทย โดยจุดมุ่งหมายคือมุ่งยกระดับภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยสู่จุดหมายปลายทางคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่น และนำเสนอสินค้าเสน่ห์ไทย”
สำหรับระยะเวลาดำเนิน 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2568-29 ก.ย.2569 ลิซ่าจะแสดงภาพยนตร์โฆษณา (TVC) 1 ชิ้นงาน ความยาว 60 วินาที โดย ททท.นำไปตัดลงเป็น 30 วินาที, 15 วินาที และเทรลเลอร์ 30 วินาที รวม 4 ชิ้นงาน
รวมถึงถ่ายภาพนิ่ง 12 ภาพ คาดเปิดตัว TVC เดือน ม.ค.2569 คอนเซปต์ล้อกับทิศทางสื่อสารการตลาดของ ททท.“Unforgettable Experience: Healing is The New Luxury” เน้นนำเสนอภาพการพักกายพักใจในไทยหลังทำงานหนักเพื่อเติมพลัง นอกจากนี้จะจัดงานเอ็กซ์คลูซีฟ อีเวนต์ 1 งาน ปลายเดือน ม.ค. ซึ่งจะเปิดให้แฟนคลับเข้าร่วมงานด้วย และ ททท.จะผลิตสินค้าของที่ระลึก (Merchandise) สำหรับแจกฟรีในกิจกรรมทางการตลาดของ ททท.เท่านั้น
สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับจากฐานผู้ติดตามอินสตาแกรมของลิซ่า ซึ่งมีมากกว่า 106 ล้านราย และมีเอนเกจเมนต์สูงมาก คาดมีการเผยแพร่ภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทยสู่โลกออนไลน์ 1,000 ล้านคน-ครั้ง ตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจริง 5-10 ล้านคน ในปี 2569 สนับสนุนให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นไปตามเป้าหมาย สร้างรายได้ 2.5-5.0 แสนล้านบาท มีส่วนผลักดันรายได้รวมการท่องเที่ยวแตะ 3 ล้านล้านบาท ในปี 2569 เท่ากับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด
“ทำไมถึงเลือกลิซ่าเป็นตัวแทนของไทย เพราะลิซ่าเป็นศิลปินไอคอนระดับโลก มีผลงานและความสำเร็จที่ได้รับการพิสูจน์หลายปีที่ผ่านมา จึงเชื่อมั่นว่าแอมบาสเดอร์มีอิทธิพลต่อการสื่อสารภาพลักษณ์ของไทยสู่สายตาชาวโลก โดยก่อนหน้านี้ ททท.ใช้พรีเซนเตอร์และ KOLs มากมาย แต่ปีหน้าอยากดึงศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเพิ่มการมองเห็นไทยมากขึ้น”
ก่อนหน้านี้ ลิซ่าเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับลูกชิ้นยืนกิน เมนูขึ้นชื่อของ จ.บุรีรัมย์ รวมถึงการโพสต์รูปบนอินสตาแกรม สวมผ้าซิ่นเที่ยววัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ ได้ถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลง Rockstar ดึงนักท่องเที่ยวมาย่านเยาวราช ซึ่งเป็นโลเกชันถ่ายทำและทำให้ ททท.ต่อยอดกระแสการเดินทางไปตลาดน้อย ทรงวาด เฟื่องนครและบรรทัดทอง
“ลิซ่าสร้าง Earned Media Value สูงมาก เช่น งานของแบรนด์ซีลีน มีมูลค่าสื่อสูง 29 ล้านดอลลาร์ ททท.คาดหวังว่าเมื่อเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาจะขยายผลไปยังนักท่องเที่ยวและฐานแฟนคลับลิซ่าทั่วโลก จากบทบาทลิซ่าในการเชื่อมโยงต้นทุนวัฒนธรรม อาหาร การท่องเที่ยวและบริการ"
อีกตัวอย่างที่เห็นชัดเป็นการร่วมแสดงในซีรีส์เรื่อง White Lotus ร่วมสร้างเอนเกจเมนต์สูงมาก ทำให้สมุยเป็นเดสติเนชันที่ได้รับความนิยมและมียอดจองการเดินทางเข้าสมุยมาก ททท.ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันไตรมาส 4 เป็นความหวังของการท่องเที่ยว โดย ททท.เตรียมจัดเทศกาลและอีเวนต์ เช่น มหาลอยกระทง จ.สุโขทัย 2 สัปดาห์
รวมทั้งการแข่งขันอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก ผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของมาราธอนระดับโลก ตีคู่กับเบอร์ลินและโตเกียว, งานวิจิตร เจ้าพระยา ขยายระยะเวลาจัดงานเป็น 45 วันรวมถึงไฮไลต์อย่างงานเคานต์ดาวน์ 2026 รวมทั้งให้ความสำคัญกับทุกตลาด โดยจัดโครงการหนีห่าว มันธ์ (Nihao Month) ประกอบด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์และแคมเปญทางการตลาดต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ย.ถึงปลายปีนี้เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีน นอกจากนี้ยังเตรียมจัดเทศกาลดิวาลีเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อินเดียอีกด้วย