
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ในช่วงการประชุม OECD ระดับรัฐมนตรี ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตนได้พบหารือกับนายมารอส เซฟโควิช (H.E. Mr. Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและความโปร่งใส เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) และผลักดันให้สรุปผลได้ภายในปีนี้ ตามนโยบายของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายพิชัย กล่าวว่า ตนและนายมารอสเห็นร่วมกันว่าการเจรจา FTA ไทย-EU มีความคืบหน้าที่ดี สามารถสรุปการเจรจาไปได้แล้ว 4 บทได้แก่ (1) ความโปร่งใส (2) แนวปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ (3) พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และ (4) ระบบอาหารที่ยั่งยืน โดยไทยพร้อมทำงานร่วมกับ EU อย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันให้บทที่เหลือได้ข้อสรุปที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว
โดยตนได้ย้ำกับฝ่าย EU ว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการเจรจากับ EU เนื่องจาก EU เป็นพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญของไทย และมั่นใจว่า FTA ฉบับนี้ จะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และลดผลกระทบจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบัน
นายพิชัยเสริมว่าขณะนี้เป็นช่วงสำคัญของการเจรจาฯ เพราะเริ่มเข้าสู่การหารือเปิดตลาดแล้ว และจะมีการประชุมรอบที่ 6 ระหว่างวันที่ 23-27 มิถุนายน 2568 ณ กรุงเทพฯ ซึ่งหวังว่าจะมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจยิ่งขึ้น โดยตนได้กำชับกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งการเจรจาฯ ให้สามารถสรุปผลได้ภายในปีนี้ เพื่อขยายโอกาสและสร้างแต้มต่อทางการค้า ผลักดันการส่งออก ดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ และเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของไทยให้ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศต่างๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายในประเด็นใหม่ๆ ทางการค้า
นอกจากนี้ ตนยังให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA กับภาคเอกชนและผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ