นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทรูมันนี่ในปัจจุบันไม่ใช่แค่พลิกโฉมการใช้จ่ายของผู้คน แต่เป็นแอปที่สามารถ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในทุกวัน โดยมีฐานผู้ใช้งานในปัจจุบันกว่า 27 ล้านคน และเป็นแอปทางการเงินที่เป็นที่รู้จักสูงสุดอันดับหนึ่ง
โดยวันนี้เราพร้อมยกระดับภารกิจของเราขึ้นไปอีกขั้น ด้วยจุดยืนในการเป็นซูเปอร์แอปทางการเงินเพียงหนึ่งเดียวที่ให้บริการครบที่สุด บนแนวคิด “Effortless Money Management Service’ เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงทุกบริการทางการเงินที่ง่าย และได้รับประโยชน์คุ้มค่าทุกครั้งที่ใช้ ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกกลุ่ม
จากข้อมูลการศึกษาผู้ใช้งาน ทรูมันนี่ พบว่า นอกจากกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินแล้ว ยังมีคนจํานวนมากที่มีบัญชีธนาคารแต่ประสบปัญหาและข้อจํากัดต่าง ๆ จึงได้มุ่งมั่นพพัฒนาการใช้งาน ภายใต้แนวคิด “ความเป็นไปได้ ได้ทุกคน” ทรู มันนี่ เสนอบริการ 3 กลุ่ม
1.บริการในกลุ่มใช้จ่าย ทั้งการจ่ายออนไลน์ ออฟไลน์ โอนเงิน ใช้จ่ายต่างประเทศ และวงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลัง
2.บริการในกลุ่มการเงิน ช่วยให้เงินงอกเงยเป็นเรื่องง่าย บริการด้านการออม ลงทุน ประกัน และสิทธิประโยชน์หลากหลาย มีทั้งดอกเบี้ยและการแจ้งเตือนเพื่อจ่าย
3.บริการสนับสนุนธุรกิจ เพิ่มพลังธุรกิจให้ไปได้ไกลกว่า บริการสนับสนุน SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ระบบสมาชิก และฟีเจอร์โปรโมตร้านค้า เป็นต้น
นางสาวมนสินี กล่าวต่อว่า ด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการเงินดิจิทัล ของรัฐบาลชุดใหม่ หากจัดตั้งได้เร็วและเห็นนโยบายชัดเจนก็ยิ่งดี เพราะจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน ซึ่งเอกชนเองยินดีที่จะเข้าร่วมหากมีนโยบายที่เกี่ยวกับการเงินดิจิทัล โดยขอให้เปิดกว้างเพื่อเพิ่มช่องทางและกระจายประโยชน์ มากกว่าผูกอยู่กับแอปพลิเคชันเดียว
โดยแนวนโยบายที่อยากเห็น คือการเปิดกว้างและให้ธุรกิจได้ดำเนินกิจการ ทั้งในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูล การแข่งขัน ให้เกิดความเท่าเทียม ทั้งผู้ให้บริการรายใหม่และผู้บริการดั้งเดิม และไม่กังวลกับแนวนโยบายของพรรคแกนนำรัฐบาล ที่มุ่งจะกำจัดการผูกขาดทางการค้า เพราะมั่นใจว่าทรูมันนี่ได้ดำเนินนโยบายเปิดกว้างมาโดยตลอด และยินดีให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้าร่วมเป็นคู่ค้าในอุตสาหกรรม ซึ่งสอดคล้องกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เดินหน้าปรับปรุงเกณฑ์ต่างๆเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม
ด้าน นางสาวณัฐวดี แซ่เอี้ย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด ได้ชู 3 กลยุทธ์ Ease, Value, Access ยกระดับแพลตฟอร์ม “ซูเปอร์แอปการเงิน” ดังนี้
1.Ease in Every Way : นำเสนอประสบการณ์ที่สะดวก บริการที่เข้าใจง่าย รวมถึงระบบที่ช่วย คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละราย เช่น นำเสนอตัวเลือกกองทุนตามความสนใจและระดับ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือแผนประกันที่สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อลดความยุ่งยากของกระบวนการต่าง ๆ
2.Value in Every Move : เปิดประตูสู่โลกการเงินที่ได้คุณค่ามากกว่า เช่น บริการเงินฝาก ดอกเบี้ยสูง พร้อมสิทธิในการได้รับเงินคืน เมื่อผูกบัญชีเพื่อการใช้จ่าย ฟีเจอร์รีวอร์ดที่รวมทุกส่วนลด และสิทธิพิเศษไว้ด้วยกัน ทั้งการใช้จ่าย ออม และลงทุน โดยเตรียมยกระดับเจอร์รีวอร์ดสู่ Loyalty Program มอบสิทธิประโยชน์หลากหลายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นในอนาคต
3. Accessible to Everyone : ช่วยให้ทุกคนสามารถเริ่มสร้างความมั่นคงทางการเงินในแบบของตนเองได้ โดยมีข้อจำกัดน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ที่แม้มีเงินน้อยก็เริ่มได้ เช่น มีกองทุนรวมที่เลือกลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาท หรือซื้อแผนประกันด้วยเงินหลักร้อยต้น ๆ ไปจนถึงการสมัครขอวงเงินใช้ก่อนจ่ายทีหลัง โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน รู้ผลอนุมัติทันที
นอกจากนี้ การดึง “ลิซ่า Blackpink” ศิลปินวงเคพ็อปชื่อดังจากเกาหลี มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ จะช่วยยกระดับให้ทรู มันนี่ เป็นแบรนด์ระดับโลก ตามคอนเซ็ปต์ “ทุกความเป็นไปได้ ได้ทุกคน” จากการที่เป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่เติบโตเป็นศิลปินระดับโลก และยังสามารถเข้าถึงคนได้ทุกกลุ่ม