
ท่ามกลางความเคร่งครัดของกฎหมาย ที่ห้ามคนเกาหลีเล่นพนันในประเทศของตนเอง วันหนึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้กลับตัดสินใจผลักดันโปรเจกต์ระดับชาติในชื่อ “Paradise City” บนพื้นที่ใกล้สนามบินนานาชาติอินชอน ที่ไม่ใช่เพียงรีสอร์ทคาสิโน แต่คือ “เมืองแห่งความบันเทิงครบวงจร” ที่รวมศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และวัฒนธรรมเกาหลีไว้ในที่เดียว เป้าหมายไม่ใช่แค่รายได้จากคาสิโน แต่คือการสร้างภาพจำใหม่ของประเทศให้โลกต้องหันกลับมามอง
Paradise City เปิดให้บริการในปี 2017 ด้วยเงินลงทุนกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการร่วมมือระหว่าง Paradise Group ของเกาหลี และ Sega Sammy Holdings ยักษ์ใหญ่แห่งญี่ปุ่น แต่อย่างน่าสนใจคือ คาสิโนกลับไม่ใช่จุดขายหลักของที่นี่ เพราะ Paradise City ถูกออกแบบให้เป็น “เมืองประสบการณ์” สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มองหาความหรูหราแบบใหม่ ที่ผสมผสานทั้งความทันสมัยและกลิ่นอายเกาหลีแท้ ๆ ไว้ในทุกมุม
ในพื้นที่กว่า 330,000 ตารางเมตรแห่งนี้ คุณจะได้พบกับโรงแรม 5 ดาว สปาระดับโลก สวนน้ำสไตล์ยุโรป แกลเลอรีศิลปะระดับพิพิธภัณฑ์ และไนท์คลับที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก หากคิดว่าที่นี่คือแค่คาสิโนในคราบโรงแรมหรู คุณอาจต้องคิดใหม่ เพราะ “ศิลปะ” และ “วัฒนธรรม” ต่างหากที่เป็นแก่นแท้ของเมืองนี้
Paradise City ไม่ได้ใช้เครื่องเล่นหรือโชว์ใหญ่ในการสร้างแรงดึงดูด แต่เลือกใช้ “ศิลปะร่วมสมัย” เป็นภาษากลางในการเชื่อมต่อกับผู้คนทั่วโลก ผลงานจาก Damien Hirst, Yayoi Kusama, และ Jeff Koons ปรากฏอยู่ในโถงโรงแรม ทางเดิน และห้องแสดงงาน ซึ่งเปลี่ยนพื้นที่คาสิโนให้กลายเป็นแกลเลอรีเดินได้ 24 ชั่วโมง ที่ผู้เข้าชมไม่ต้องซื้อตั๋ว
ขณะเดียวกันไนท์คลับชื่อ “Chroma” ก็ไม่ใช่แค่สถานที่เที่ยวกลางคืน แต่คือเวทีให้ดีเจระดับโลกมาปล่อยของ พร้อมแสงสีเสียงล้ำยุค เปลี่ยนค่ำคืนธรรมดาให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ผู้มาเยือนต้องจดจำไปตลอดชีวิต
คำถามสำคัญคือ ทำไมต้องอินชอน? คำตอบอยู่ที่ทำเลอันทรงพลังของสนามบินอินชอน ซึ่งติดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลก และเป็นประตูสู่เอเชียตะวันออก Paradise City อยู่ห่างจากสนามบินเพียง 5 นาที พร้อมบริการ Shuttle Bus ฟรี เชื่อมโยงเมืองนี้เข้ากับเครือข่ายนักเดินทางทั่วโลก ที่ใช้เวลาแวะพักเพียง 24-48 ชั่วโมงระหว่างทรานสิท แต่กลับได้รับประสบการณ์เทียบเท่าการไปเยือนทั้งโซลหรือปูซาน
ในเชิงยุทธศาสตร์ Paradise City ถูกออกแบบให้เป็น “Gateway Tourism” หรือเมืองหน้าด่านแห่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมเกาหลี โดยไม่ต้องเดินทางลึกเข้าไปในประเทศ
Paradise City ช่วยสร้างงานหลายพันตำแหน่งในท้องถิ่น และกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากจีน ญี่ปุ่น และอาเซียน ในขณะที่รัฐบาลยังสามารถควบคุมผลกระทบจากการพนันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคาสิโนเปิดให้เฉพาะ “ชาวต่างชาติ” เท่านั้น
และแม้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดและการแข่งขันจากคู่แข่งในภูมิภาคอย่างมาเก๊า สิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น แต่ Paradise City ยังคงมีเอกลักษณ์ที่หาใครเทียบได้ นั่นคือ “การหลอมรวมระหว่างความเป็นสากลและเกาหลี” ที่ไม่เคยหลุดจากรากวัฒนธรรม
หลักการสำคัญ:
• คนในประเทศห้ามเล่นคาสิโน (ยกเว้นแห่งเดียว)
• เปิดคาสิโนได้เฉพาะ สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
• ผูกคาสิโนเข้ากับรีสอร์ตครบวงจร (Integrated Resorts)
ตัวอย่างโมเดลสำคัญในเกาหลีใต้
1. Kangwon Land (คังวอนแลนด์)
• คาสิโนแห่งเดียวในเกาหลีใต้ที่คนเกาหลีสามารถเล่นได้
• ตั้งอยู่ในเขตเหมืองถ่านหินเก่า จ.กังวอน
• ตั้งขึ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของพื้นที่ห่างไกล
• รัฐถือหุ้นใหญ่และควบคุมเข้มงวด
• รายได้ต่อปีสูงมาก แต่ถูกจำกัดเวลาการเล่น (สูงสุด 15 ชั่วโมงต่อวัน/ต่อคน)
บทเรียน: เปิดคาสิโนได้ หากใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะพื้นที่ที่ยากจน และต้องมีการควบคุมที่เข้มงวดสุด
2. Jeju Island (เกาะเชจู)
• เกาะท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก
• มีคาสิโนมากกว่า 8 แห่ง เช่น Jeju Shinhwa World, Lotte Hotel Casino
• คาสิโนเปิดเฉพาะสำหรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
• รัฐบาลอนุญาตให้มี Entertainment Complex ที่รวมคาสิโน โรงแรม ห้าง สนามกอล์ฟ และธีมพาร์ค
บทเรียน: การผูกคาสิโนกับสถานที่ท่องเที่ยวหลัก และจำกัดแค่คนต่างชาติช่วยลดแรงต้านในประเทศ
3. Incheon Paradise City
• รีสอร์ตครบวงจรติดสนามบินอินชอน
• มีคาสิโนเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมโรงแรมหรู ศูนย์ศิลปะ ห้าง และเวทีคอนเสิร์ต
• ได้รับการโปรโมทให้เป็น “เมืองประสบการณ์ระดับโลก” ที่ไม่ใช่แค่การพนัน
บทเรียน: ตำแหน่งใกล้สนามบินและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทำให้ดึงดูดกลุ่ม High-End นักธุรกิจ นักเดินทางระหว่างประเทศ
อ้างอิงข้อมูล:
เว็บไซต์ทางการของ Paradise City https://www.p-city.com
Paradise Group – Company Profile
Forbes –“Inside Korea’s $1.3 Billion Paradise City Casino Resort”
Korea Tourism Organization (KTO)