
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากกรณีที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.75% ต่อปี เป็น 2.00% ต่อปี สอดคล้องกับภาวะทิศทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ ทีทีบีจึงได้พิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ทั้งลูกค้าบุคคลและนิติบุคคล
โดยเน้นส่งเสริมให้ลูกค้าออมเงินเพิ่มมากขึ้นผ่านบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่หลากหลาย รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อด้วยโซลูชันรวบหนี้ โดยธนาคารมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ดังนี้
สำหรับลูกค้าบุคคล
สำหรับลูกค้านิติบุคคล
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) 0.20% ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี 0.20% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) 0.20% โดยอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 66
จากสถานการณ์ปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลูกค้าสินเชื่อที่อ่อนไหวต่อค่าครองชีพและภาระหนี้ที่สูงขึ้น ธนาคารยังคงมีตัวเลือกทางการเงินที่หลากหลาย เช่น การรวบหนี้ด้วยสินเชื่อบ้านแลกเงิน ทีทีบี เคลียร์หนี้ ด้วยดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรก เริ่มต้น 5.93% ต่อปี
และหากใครที่กำลังมีภาระผ่อนบ้าน-คอนโด แนะนำสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี ด้วยดอกเบี้ยพิเศษเฉลี่ย 3 ปีแรก เริ่มต้น 3.65% ต่อปี พร้อมขอวงเงินกู้เพิ่มเป็นสินเชื่อบ้านแลกเงินเพื่อไปรวบหนี้ได้เช่นกัน ซึ่งโซลูชันเหล่านี้จะช่วยแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้ลูกค้า ลดค่างวดต่อเดือนช่วยเสริมภาพคล่องให้ลูกค้าได้
สำหรับลูกค้าที่เน้นการออม ธนาคารยังมีทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องด้วย บัญชีเงินฝากดิจิทัล ทีทีบี มีเซฟ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.00% ต่อปี ตั้งแต่ยอดเงินฝากบาทแรกถึง 100,000 บาท สามารถฝาก-ถอนเมื่อไรก็ได้ และไม่กำหนดขั้นต่ำในการฝากเงิน ปัจจุบันนับเป็นบัญชีเงินฝากที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าบัญชีเงินฝากดิจิทัลอื่น ๆ ในตลาด