4 มิถุนายน2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา "ราชกิจจานุเบกษา" เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา "จัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่" (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2566
โดยเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ เพื่อให้การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
รวมทั้งเพื่อให้เกิดการร่วมมือในข้อมูลขนาดใหญ่ของหน่วยงานของรัฐและเอกชนสำหรับการแก้ไขปัญหา การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการให้บริการการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สมควรจัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นเป็นองค์การมหาชน
โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งส่งเสริม ประสาน และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เป็นไปอย่างยั่งยืน
สำหรับสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งองค์การมหาชนขึ้น เรียกว่า สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) เรียกโดยย่อว่า "สขญ." และให้ใช้ชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Big Data Institute (Public Organization) เรียกโดยย่อว่า "BDI" โดยให้สถาบันมีที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพมหานครหรือในจังหวัดอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา และอาจตั้งสำนักงานสาขาได้ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
หน้าที่ของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่
การจัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) มีวัตถุประสงค์ และหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. จัดทำยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
2. ส่งเสริม ประสาน และให้บริการแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ในการแก้ไขปัญหา เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการให้บริการ หรือการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
3. ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งให้บริการคำปรึกษาหรือเป็นที่ปรึกษาด้านข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน
4. ส่งเสริมหน่วยงานของรัฐและเอกชนในการสร้างนวัตกรรมด้านข้อมูลขนาดใหญ่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรฐานในระดับสากล เพื่อเพิ่มศักยภาพการบูรณาการและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ
5. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาธุรกิจด้านการวิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศ
6. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาองค์ความรู้และบุคลากรของประเทศด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
7. ดำเนินการอื่นเพื่อพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ของประเทศตามที่กฎหมายกำหนดหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมายเพื่อบูรณาการการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ สถาบันอาจเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้หน่วยงานของรัฐสนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันหรือร่วมดำเนินการกับสถาบันตามมาตรานี้ได้
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ โดยที่การใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ ของหน่วยงานของรัฐและเอกชนสำหรับการแก้ไขปัญหา การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการให้บริการ การตัดสินใจในการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สมควรจัดตั้งสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้น เป็นองค์การมหาชน
โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จาก ข้อมูลขนาดใหญ่ รวมทั้งส่งเสริม ประสาน และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดัน ให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เป็นไปอย่างยั่งยืน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
สำหรับ "สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่" (องค์การมหาชน) แปรสภาพมาจากสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (สวข.) อันเป็นหน่วยงานภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 มุ่งเน้นการให้บริการด้านการพัฒนาบุคลากรและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ของภาครัฐ
การขับเคลื่อน"บิ๊กดาต้า"ภายใต้การดำเนินงานของ "สวข." ยังถูกให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน นำไปสู่การผลักดันจากรัฐบาลให้เกิดการจัดตั้งสถาบันคลังข้อมูลขนาดใหญ่แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อยกระดับ สวข. ให้เป็นหน่วยงานนิติบุคคล ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565
ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566 "ราชกิจจานุเบกษา"ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง"สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่" (องค์การมหาชน) โดยโอนภาระหน้าที่ ทรัพย์สิน และหนี้สิน จากสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ อีกทั้งขยายภารกิจในการส่งเสริมการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ในภาคเอกชนด้วย
ทั้งนี้ในวาระเริ่มแรก ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการสถาบันฯ ไปพลางก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย:
คลิกที่นี่ ฉบับเต็ม