svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

งวดสุดท้าย! ประกันรายได้ข้าว งวด 33 ยังมีชดเชย ข้าวชนิดไหนได้บ้างเช็กเลย

26 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมการค้าภายใน เคาะประกัยรายได้ข้าว งวดสุดท้าย พบยังมีข้าวปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้รับการชดเชย ขณะที่ข้าวชนิดอื่นราคาสูงกว่าเกณฑ์ที่ต้องชดเชยราคา ย้ำการส่งออกความต้องการเพิ่ม คาดเป็นไปตามเป้าที่ 8 ล้านตันในปีนี้

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 ในงวดสุดท้าย งวดที่ 33 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2566

ปรากฏว่า ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 13,671.28 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 328.72 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,259.52 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางสูงกว่าราคาประกัน จึงไม่มีส่วนต่างชดเชย

ในงวดนี้ โดยข้าวเปลือกปทุมธานี มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 11,252.18 บาท ข้าวเปลือกเจ้า มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 10,216.69 บาท และข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 12,734.33 บาท สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว
 

โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ภายในวันที่31 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้ การที่ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ดี ในระดับที่สูงกว่าราคาประกัน จนไม่มีส่วนต่างชดเชย ส่งผลให้รัฐบาลจ่ายชดเชยส่วนต่างน้อยลง ช่วยให้ประหยัดงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินโครงการได้อีกทางหนึ่งด้วย

สถานการณ์การซื้อขายข้าวในตลาด ผู้ส่งออกยังมีความต้องการข้าวเจ้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศอิรัก และอินโดนีเซีย สำหรับสถานการณ์การส่งออก ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศให้ข้อมูลว่า ปริมาณการส่งออกจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 สามารถส่งออกข้าวได้แล้วกว่า 3.27 ล้านตัน และน่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากปรากฎการณ์เอลนีโญ ทำให้เกิดภัยแล้ง หลายประเทศผลผลิตลดลงโดยคาดว่าจะส่งออกได้ถึง 8 ล้านตันตามเป้าหมาย 

ทั้งนี้ในงวดที่ 1 - 32 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วกว่า 2.636 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,867.02 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป 
สำหรับ การค้าข้าว ขอความร่วมมือเกษตรกร โรงสี ผู้ค้า และหน่วยงานในพื้นที่กำกับดูแลและเพิ่มการตรวจสอบ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการปลอมปนข้าว ที่จะกระทบต่อคุณภาพข้าวส่งออกได้

นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ได้เพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569

logoline