svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Business

'ลอนตาล' ยิ่งร้อนยิ่งแพง! โกยหลักหมื่นบาทต่อวัน

ลอนตาล หรือเม็ดตาลอ่อน เป็นที่นิยมของชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากเนื้อกรอบหวานมีความชุมฉ่ำ และมีกลิ่นหอมของของน้ำจากลูกตาล ยิ่งหากนำไปแช่เย็นก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 224 ด้านหน้าโรงเรียนบ้านหนองตะแบก ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ครอบครัวของนางสาวมาแลน ยศสูงเนิน อายุ 29 ปี ชาวบ้านหนองโสน หมู่ที่ 1 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พากันออกตระเวน หารับซื้อลูกตาลอ่อน ตามท้องไร่ท้องนา เพื่อนำมาแกะเอาเม็ดอ่อน หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ลอนตาล” เเพื่อนพมาใส่ถุงวางจำหน่ายให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรผ่าน ได้นำกลับไปรับประทาน

สำหรับ ลอนตาล หรือเม็ดตาลอ่อน นั้นเป็นที่นิยมของชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจาก เนื้อกรอบหวานมีความชุมฉ่ำ และมีกลิ่นหอมของน้ำจากลูกตาล ยิ่งหากนำไปแช่เย็นก็จะยิ่งเพิ่มความอร่อย กินแล้วคลายร้อนได้เป็นอย่างดี โดยราคาของลูกตาลอ่อน หรือ ลอนตาล นั้นจะอยู่ที่ถุงละ 40 บาท แต่ละถุงจะมีประมาณ 8 –10 ลูก แล้วแต่ขนาด

นอกจากนี้ หัวตาลอ่อน ก็ยังสามารถนำมาวางขายได้อีก เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่ง นิยมนำไปประกอบเป็นอาหารรับประทาน อย่างต้มจิ้มน้ำพริก หรือนำไปทำแกงหัวตาล ได้อีกด้วย ซึ่งราคาของหัวตาลอ่อนจะอยู่ที่ราคาถุงละ 10 บาท เท่านั้น

 

นางสาวมาแลน ยศสูงเนิน เล่าว่า ลูกตาลอ่อน หรือ ลอนตาลนั้น จะสามารถหาได้ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น แต่ละปีจะมีช่วงที่ตาลอ่อนออกลูกเพียง 2 – 3 เดือนเท่านั้น คือระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ของทุกปี แต่ปีนี้อากาศร้อนและแล้งจัด ทำให้ตาลออกลูกช้ากว่าทุกๆ ปีเกือบเดือน ขณะที่ผลผลิตก็มีน้อยเป็นพิเศษ

สาเหตุ ตาลออกลูกช้า ก็มาจากทั้งสภาพอากาศที่แล้งจัด รวมถึงจำนวนต้นตาล ที่น้อยลงทุกๆ ปี ทำให้ ลูกตาลอ่อน หายากตามไปด้วย แม้ว่าจะมีเจ้าประจำเหมาซื้อรายต้น แต่ก็ต้องตระเวนดูอยู่เรื่อยๆ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีคนอื่นมาแย่งเอาไปก่อน หรือบางทีก็มีแอบมาขโมยปีนตัดหน้าไปก่อนด้วย ทำให้ตอนนี้ ราคาลอนตาล ขยับตัวสูงขึ้นทุกปี โดยปีที่แล้วราคาขายจะอยู่ที่ถุงละ 35 บาท ขณะที่ปีนี้ราคาอยู่ที่ถุงละ 40 บาท และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นต่อไปอีกในปีถัดไป

นอกจากสาเหตุเรื่องแล้ง ต้นตาล ลดลงแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ ราคาลอนตาล สูง เนื่องมาจาก ค่าความเสี่ยงในการขึ้นเก็บลูกตาลนั้นสูงมาก เพราะ ต้นตาลแต่ละต้น จะสูงอย่างน้อย 10 เมตรขึ้นไป อีกทั้งเป็นลำต้นตั้งตรงไม่มีกิ่ง ทำให้คนปีนลำบากและเสี่ยงมาก

ดังนั้นคนปีน ต้องมีความชำนาญด้าน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะรายได้จากการขาย แต่ละวันที่นำมาวางจำหน่ายค่อนข้างสูง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าจะมีตาลมากน้อยขนาดไหน อย่างเช่นหากได้ขึ้นตาลสัก 8 ต้น ก็จะนำมาแกะวางขายได้ประมาณ 7 – 8 พันบาทขณะที่ความต้องการนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะมีเท่าไรก็ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน