น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงข้อมูลภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นฟื้นตัวรวดเร็ว โดยตั้งแต่ต้นปี ถึง 27 มี.ค. 66 มีชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 6.15 ล้านคน แต่พร้อมกับการฟื้นตัวก็ได้มีประเด็นปัญหาที่ตามมาคือ ราคาโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ได้รับตัวขึ้นเป็นเท่าตัว
ดังนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ที่ดูแลกำกับผู้ประกอบการ ผู้ค้าขาย ให้ดูแลกำกับตรวจสอบว่าระดับราคาบริการต่างๆ ในภาคท่องเที่ยวที่ปรับตัวขึ้นขณะนี้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลหรือไม่ เพื่อไม่ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ถูกเอารัดเอาเปรียบ และกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางธุรกิจของผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด19 ซึ่งรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือ ทั้งมาตรการด้านการเงิน มาตรการฟื้นฟู เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ขณะนี้ดำเนินมาถึงเฟส5 แล้ว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องขอความร่วมมือ จากผู้ประกอบการให้ร่วมกันดูแลบรรยากาศให้การฟื้นตัวเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง โดยขอให้กำหนดอัตราค่าบริการให้สมเหตุสมผล ไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคามากจนเกินไป เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของภาคการท่องเที่ยวไทยในระยะยาว
“นายกรัฐมนตรี เข้าใจว่าอัตราค่าบริการทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหารมีการปรับเปลี่ยนไปตามกลไกตลาด แต่เพื่อภาพลักษณ์ที่ดี สร้างความประทับใจ ให้นักท่องเที่ยว ที่เลือกเดินทางมาประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ หลังโควิด ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่ตอนนี้ก็เลือกเที่ยวในประเทศกันมากขึ้น ขอให้ผู้ประกอบการช่วยกันดูแลเรื่องของราคาค่าบริการต่างๆ ที่เป็นธรรม และขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว