21 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ปรากฎข่าวในสื่อออนไลน์ "วงการส่งออกไก่-ไก่งวง" ป่วนหนักจี้นายกฯ-รมว.เกษตรฯ เด้ง "บิ๊ก ขรก."-ตรวจสอบ "กรมปศุสัตว์"
โดยเนื้อหารายละเอียดระบุว่า มีบริษัทสัญชาติจีนแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่า สามารถส่งชิ้นส่วนไก่ไปยังประเทศจีนได้ด้วยวิธีการสวมสิทธิ์จากโรงงานในประเทศไทย 12 โรงงานผ่านบริษัทไทยแห่งหนึ่ง แต่การที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์จีนกล้าโอนเงินจำนวนหลายร้อยล้านบาทให้กับบริษัทนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า มีสายสัมพันธ์กับข้าราชการระดับสูงในกรมปศุสัตว์
"นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์" อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า การส่งออกชิ้นส่วนสัตว์ปีกไปยังประเทศจีน กรมปศุสัตว์มีหน้าที่กำกับ ดูแล คุณภาพมาตรฐาน ตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขพิธีสาร (MOU) ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2561 ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในพิธีสารฯ อย่างเคร่งครัด
"กรมปศุสัตว์"ไม่มีอำนาจในการกำหนดโควตาการส่งออก ปริมาณการส่งออกขึ้นอยู่กับกำลังการผลิต (capacity) แปรผันตามจำนวนไก่ที่เข้าเชือดของแต่ละโรงงาน โดยการตกลงซื้อขายสินค้า เป็นเรื่องของภาคเอกชนดำเนินการ ซึ่งกรมปศุสัตว์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเชิงธุรกิจใดๆทั้งสิ้น
ปัจจุบันมีโรงงานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนส่งออกชิ้นส่วนสัตว์ปีกไปยังประเทศจีนจำนวน 23 โรงงานซึ่งปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ของสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ตรวจสอบกระบวนการผลิต ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกรมปศุสัตว์และพิธีสารฯดังกล่าวข้างต้น ก่อนที่จะเสนอให้ฝ่ายออกหนังสือรับรองสุขอนามัยทำการพิจารณาตรวจสอบเพื่อออกหนังสือรับรองสุขอนามัย (Health Certificate) ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนได้ทุกขั้นตอน รวมทั้งยอดปริมาณการส่งออกต้องสอดคล้องกับการผลิตจริงของแต่ละโรงงาน ดังนั้นประเด็นการสวมสิทธิ์จึงไม่สามารถกระทำได้"
"นายสัตว์แพทย์สมชวน" กล่าวเพิ่มเติมว่า "กรมปศุสัตว์ได้มีการติดต่อสอบถามสถานการณ์ในฝั่งประเทศจีนเรื่องการส่งออกชิ้นส่วนสัตว์ปีก ผ่านทางสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ซึ่งได้รับคำตอบว่ายังไม่มีรายงานประเด็นปัญหาใดๆจากหน่วยงานของรัฐบาลจีน แต่มีผู้ประกอบการฝ่ายจีนมาติดต่อสนใจที่จะนำเข้าชิ้นส่วนสัตว์ปีกจากไทยจำนวนมาก
กรมปศุสัตว์ขอเตือนว่าอย่าหลงเชื่อผู้ประกอบการหรือพ่อค้าคนกลางทั้งฝ่ายไทยและจีนที่แอบอ้างการมีความสัมพันธ์กับข้าราชการระดับสูงในกรมปศุสัตว์ หรือกล่าวอ้างว่าสามารถสวมสิทธิ์ส่งออกได้ หากผู้ใดพบเห็นการกระทำดังกล่าวโปรดแจ้งข้อมูลมาที่ www.dld.go.th หรือที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งกรมปศุสัตว์จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
"ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ อยู่ระหว่างการพัฒนาการบริการรับรอง ตรวจสอบ การออกหนังสือรับรองสุขอนามัย โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ทดแทนการออกเอกสารแบบเดิม ซึ่งจะช่วยให้เกิดความรวดเร็วในการบริการ ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ลดการใช้เอกสาร เพิ่มศักยภาพในการตรวจสอบย้อน โดยจะนำมาให้บริการภายในปี 2566" อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกรมปศุสัตว์กำกับ ดูแล อุตสาหกรรมไก่เนื้อ ตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ฟาร์มจนถึงผู้บริโภคให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากลจนสามารถส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศ
ในปี พ.ศ. 2563 มีการส่งออกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป (Frozen) ปริมาณ 986,737 ตัน คิดเป็นมูลค่า 116,428 ล้านบาท
ในปี พ.ศ. 2564 มีการส่งออกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป (Frozen) ปริมาณ 970,528 ตัน คิดเป็นมูลค่า 112,662 ล้านบาท
ในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมามีการส่งออกเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป (Frozen) ปริมาณ 1,070,687 ตัน คิดเป็นมูลค่า 153,236 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปีทำให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เกษตรกรปลูกพืชอาหารสัตว์ แรงงานในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลกอย่างปลอดภัยและยั่งยืน” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สำคัญมาตรฐานอุตสาหกรรมไก่ไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ