นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/65 หนี้สินครัวเรือนมีมูลค่า 14.90 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.9% จากไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 3.5% เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐ กิจและตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น
ขณะที่สัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP อยู่ที่ 86.8% ลดลงจากไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 88.1% สาหรับคุณภาพสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ยังคงทรงตัว โดยหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไตรมาสสี่ ปี 2565 มีสัดส่วน 2.62% ต่อสินเชื่อรวม
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาสินเชื่อกล่าวถึงพิเศษ (SML) หรือสินเชื่อค้างชำระน้อยกว่า 3 เดือนพบว่า สินเชื่อกล่าวถึงพิเศษในสินเชื่อรถยนต์มีสัดส่วนสูงถึง13.7% ของสินเชื่อรวม
นอกจากนี้จากข้อมูลเครดิตบูโรพบว่า ลูกหนี้เสียจากผลกระทบของ COVID-19 ยังมีปริมาณมาก แม้สถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลายลง ซึ่งในระยะถัดไปมีประเด็นที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญ คือ 1. การเร่งดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ที่เริ่มมีสัญญาณการผิดชำระหนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการตกชั้นของลูกหนี้ที่มีจำนวนมาก
2. การมีมาตรการเฉพาะเจาะจงในการช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้เสียจากผลกระทบของ COVID-19เพื่อลดจานวนลูกหนี้เสียไม่ให้เพิ่มขึ้นในระยะถัดไปและรักษาสถานะลูกหนี้ให้อยู่ในระบบการเงิน