
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ (โครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชน ผู้มีรายได้น้อย มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในราคาที่เหมาะสม กับ ศักยภาพของประชาชนแต่ละกลุ่ม
โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อ ของธนาคารพาณิชย์ กลุ่มวัยทำงาน หรือ ประชาชน ที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ที่มียอดคำขอสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินแล้ว โดยมียอดอนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 22,240 ราย เป็นจำนวนเงิน 19,937.46 ล้านบาท
สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง เฟส 3 มีวงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดย ธอส. สนับสนุนสินเชื่อ ให้แก่ประชาชนทั่วไป ที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ในช่วง 5 ปีแรก วงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อรายต่อหลักประกันและมีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 40 ปี
โดยประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการแล้ว
ทั้งนี้ สัดส่วนของจำนวนผู้ ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ภายใต้โครงการบ้านล้านหลัง เฟส2 มีการกระจายตัวอยู่ในช่วงวงเงิน ได้แก่
1. ต่ำกว่า 500,000 บาท จำนวน 11%
2. 500,001 – 1,000,000 บาท จำนวน 47%
3. 1,000,001 – 1,500,000 บาท จำนวน 42%
โดยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 36% และจังหวัดภูมิภาค 64% ซึ่งจะเห็นได้ว่า สัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชน ผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ อยู่ระหว่างช่วงระดับราคาที่ 500,001 – 1,500,000 บาท และ อยู่ในพื้นที่จังหวัดภูมิภาค
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูงและเหมาะสมกับศักยภาพของตนเองใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว จะส่งผลให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต และ ความเป็นอยู่ ของผู้เข้าร่วมโครงการ ให้ดีขึ้น