svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

"อาคม" มั่นใจศก.ไทยโต สวนกระแสโลก หลังท่องเที่ยวฟื้นตัวดีเกินคาด

15 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"อาคม. รมว.คลัง มั่นใจเศรษฐกิจไทยโตสวนโลก จากปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยว ด้านการส่งออกแนะ เร่งหาตลาดใหม่ในประเทศเพื่อบ้าน โดยเฉพาะหลุ่มเอสเอ็มอี ย้ำนโยบายการเงินการคลัง ยังเป็นไปตามเป้าหมายเพื่อดูแลค่าเงินเฟ้อ

ในงาน Thailand Future Economic Forum 2023 ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ฝ่าคลื่นเศรษฐกิจ ปี 2566" ว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีกว่าที่คาด รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ ที่ได้อานิสงส์จากมาตรการของรัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน โดยการใช้จ่ายขยายตัวในระดับ 3-4% เป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสม

"อาคม" มั่นใจศก.ไทยโต สวนกระแสโลก หลังท่องเที่ยวฟื้นตัวดีเกินคาด

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบ  แม้ว่าในปีนี้จะได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเกินคาด แต่ในช่วงไตรมาส 1/66 ภาคการส่งออก มีปริมาณลดลง แต่มูลค่ายังแข่งขันได้เพราะค่าเงินบาทอ่อน

 

อย่างไรก็ตามยืนยันว่าแม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มองว่าการขยายตัวเศรษฐกิจไทยจะยังเป็นบวกโต แต่สิ่งที่ต้องทำเพื่อสนับสนุนการส่งออก คือ การมองหาตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดเพื่อนบ้านที่มีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง ในกลุ่มสินค้าเอสเอ็มอี

นอกจากนี้ สิ่งที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของไทยในอนาคต 2 เรื่อง คือ เรื่องดิจิทัล และ เรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการมุ่งเน้นให้ประเทศของไปสู่ความทันสมัย การใช้เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต แอปพลิเคชั่น แพลตฟอร์ม 5G ต่าง ๆ ล้วนเป็น โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่ทำให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ แต่เตรียมรับมือกับมิจฉาชีพที่อาศัยช่องทางดังกล่าว  ดังนั้นการเกิดระบบรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลก็จะมีการออกกฎหมายก็ต้องยอมกระทบสิทธิส่วนตัวบ้าง

"อาคม" มั่นใจศก.ไทยโต สวนกระแสโลก หลังท่องเที่ยวฟื้นตัวดีเกินคาด

นายอาคม กล่าวว่า สำหรับการจัดทำงบประมาณต้องมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะถ้าลดลงหมายความว่ารัฐบาลไม่มีเงิน ซึ่งในปี 2566-2567 งบประมาณยังมีการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะงบลงทุน ซึ่งจะมาจากการหารายได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้ดุลการคลังติดลบน้อยลง ซึ่งในปีงบประมาณ 2566 ขาดดุล 6.9 แสนล้านบาท ส่วนปี 2567 มีการขาดดุลลดลง 1.02 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงมาก็จะช่วยลดการก่อหนี้สาธารณะลง

หากงบประมาณขาดดุลมาก ๆ เป็นเวลานาน ก็ต้องมีการกู้เงินเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ 60.67% หากตามวินัยการคลังเดิมถือว่าเกินไปแล้ว แต่มีการปรับเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็น 70% ทำให้มีช่องว่างการทำนโยบายเพื่อรองรับวิกฤต ดังนั้น ทรัพยากรของเราไม่มีปัญหา การก่อหนี้เพิ่มอีกก็ไม่กระทบวินัยการคลัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลมีความตั้งใจจะกู้เพิ่มอีกจนเต็มเพดาน ขณะที่หนี้ส่วนใหญ่กว่า 80% ก็เป็นการกู้เพื่อมาลงทุน ซึ่งจะมีผลตอบแทนในระยะยาว

ทั้งนี้ยืนยันว่า นโยบายการเงินและการคลังต้องสอดประสานและทำงานร่วมกัน โดยการดูแลในเรื่องเป้าหมายเงินเฟ้อ การใช้นโยบายการเงินการคลัง เพื่อดูแลเงินเฟ้อนั้นเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการทำนโยบายการเงินนั้น ต้องดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยไม่สร้างต้นทุนให้ธุรกิจมากเกินไป และไม่สร้างต้นทุนให้ครัวเรือน ซึ่งเป็นหนี้สินอยู่แล้ว

"อาคม" มั่นใจศก.ไทยโต สวนกระแสโลก หลังท่องเที่ยวฟื้นตัวดีเกินคาด

logoline