“วันนี้ในอดีต” 11 สิงหาคม 2544 จะพาย้อนความทรงจำโศกนาฏกรรมจากฝนตกหนัก "น้ำป่าไหลหลาก" และ "ดินโคลนถล่ม" ครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของประเทศไทย นั่นคือเหตุการณ์ "บ้านน้ำก้อ" จังหวัดเพชรบูรณ์
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากปริมาณน้ำฝนสะสมในอำเภอเขาค้อ อำเภอหล่มสัก และอำเภอวิเชียรบุรี ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2544 กระทั่ง 3 นาฬิกา วันที่ 11 สิงหาคม 2544 ช่วงที่ชาวบ้านน้ำก้อ ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ กำลังนอนหลับใหลและหลับลึก ท่ามกลางสายฝนที่ถล่มลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ตัวมาก่อนกำลังจะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ขึ้นในหมู่บ้าน เกิดกระแสน้ำป่าเชี่ยวกราก พัดเอาบ้านเรือนที่อยู่ในรัศมีทางน้ำหายไปทั้งหลัง ทั้งหมู่บ้านราบเป็นหน้ากลอง ด้วยฤทธิ์น้ำป่าที่หอบเอามาทั้งดินโคลน และซากต้นไม้ กิ่งไม้ อย่างถอนรากถอนโคน
เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมทางการ เข้าเคลียร์พื้นที่ สิ่งที่พบเห็นล้วนเป็นภาพแห่งความสลดหดหู่ เพราะมีแต่ซากปรักหักพัง ถูกทับด้วยต้นไม้ กิ่งไม้ และดินโคลน และเต็มไปด้วยศพผู้คนที่กระจัดกระจาย นับรวมเป็นจำนวนมากมายถึง 136 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 109 คน สูญหาย 4 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 188 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 441 หลัง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 645 ล้านบาท
ในยุคนั้น มีการถอดบทเรียนสรุปสาเหตุของความรุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสร้างชุมชนซึ่งอยู่ห่างจากไหลเขาเพียงไม่กี่กิโลเมตรและห่างจากช่องเขาน้ำก้อใหญ่ตัดกับเขาวังบาน เพียง 2.5 กิโลเมตร ดังนั้นเมื่อเกิดการพังทะลายของลาดเขาโดยเฉพาะเขาน้ำก้อใหญ่ ปริมาณน้ำหลากผสมโคลน ต้นไม้ ตอไม้ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-10 นาที ก็จะถึงบริเวณหมู่บ้าน ซึ่งความเร็วของโคลนดังกล่าวมีประมาณ 4 - 6 ม./วินาที ดังนั้นชาวบ้านจึงไม่มีเวลาเตรียมตัวได้ทัน ประกอบกับเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณตี 3 ซึ่งเป็นเวลาหลับนอนอย่างสนิทของคนทั่วไป ความสูญเสียจึงทวีคูณ และแรงกระแทกที่กระทบต่อเสาอาคารบ้านเรือน พบว่าด้วยความเร็วของสายน้ำและโคลนดังกล่าวและด้วยความหนาหรือความลึกของชั้นโคลนประมาณ1เมตร แรงกระแทกมีไม่ต่ำกว่า1ตัน โครงสร้างอาคารจึงไม่สามารถต้านแรงกระแทกน้ำได้
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านน้ำก้อ ได้คืนผืนป่าให้กับธรรมชาติ โดยการทำเกษตรกรรมของชาวบ้าน จะเป็นการทำนา ทำใบยาสูบ ปลูกข้าวโพด พืชผัก ไม่มีการตัดไม้ ทำลายป่า ไม่มีการทำไร่เลื่อนลอย และปัจจุบันหมู่บ้านน้ำก้อ ยังมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง เพื่อรองรับน้ำจากเขาด้านบน และมีหอเตือนภัยในชุมชน แจ้งเหตุ เพราะหมู่บ้านน้ำก้อ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยจากน้ำป่าและโคลนถล่ม และชาวบ้านจะตื่นตัวและเตรียมพร้อมระวังเหตุทุกครั้งเมื่อฤดูฝนมาเยือน