"รายการคมชัดลึก" ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นออนไลน์ ดำเนินรายการโดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ชวนแกนนำจากสองพรรคการเมือง "น.ต.ศิธา ทิวารี" เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กับ "ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ" ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างพรรคที่เคยถูกมองว่า เป็นพรรคพี่พรรคน้อง แต่ทว่าตอนนี้ ศัตรูการเมืองหรือไม่
"วราวิทย์" - รายการคมชัดลึกวันนี้ได้เชิญแกนนำจากไทยสร้างไทยกับพรรคเพื่อไทยมาแลกเปลี่ยนมุมมอง หลังจากจับความเคลื่อนทางการเมืองเวลาลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งตอนนี้เหมือนเป็นการเปิดศึกระหว่างกัน
"ศิธา ทิวารี" - ต้องนิยามคำว่าเปิดศึกก่อนนะครับ ซึ่งตอนแรกผมก็นึกว่าเป็นศัตรูหรือเป็นคู่แข่ง จริงๆ ศัตรูมันต้องตรงข้ามกับมิตร ทำไมเป็นศัตรูหรือคู่แข่ง แต่พอฟังก็เข้าใจละ คำว่าเวลาการเมืองต้องแข่งกัน ทีนี้กลับมาดูว่าเราคิดที่จะเป็นศัตรูกับใครหรือเปล่า ไม่เคยมีครับ ถามว่าความสัมพันธ์เป็นยังไง ทั้งผมและคุณหญิงสุดารัตน์ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยตอนนี้ก็ล้วนแต่มาจากไทยรักไทยทั้งสิ้น ในเรื่องของนโยบายการดำเนินการต่างๆ คุณหญิงสุดารัตน์เป็น key man ในพรรคซึ่งอาจจะไม่ได้รับตำแหน่งในการบริหารเพราะอาจจะมีเทคนิคเรื่องการเมืองเรื่องการที่จะมายุบพรรคหรือว่าตัดสิทธิ์อะไรต่างๆ
เป็นประธานยุทธศาสตร์และเป็นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทยซึ่งก็สืบทอดมาจากไทยรักไทย พลังประชาชน และก็เพื่อไทย ทุกวันนี้ขับเคลื่อนนโยบายและการดำเนินการต่างๆ รวมถึงฝั่งทางด้านการเมือง ซึ่งมองว่ามีฝั่งที่สนับสนุน "ลุงตู่" กับฝั่งที่เรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย อยู่ฝั่งเดียวกันทั้งคู่
ฉะนั้นในภาพรวมไม่ได้เป็นศัตรู ถามว่าเป็นคู่แข่งกันไหมทุกพรรคการเมืองที่ลงสนามในการแข่งขันคะแนนของคนสามารถเลือกได้พรรคเดียว เลือกส.ส.เขตได้คนเดียวยังไงต้องแข่งขันกัน
แต่พอแข่งขันแล้ว วัตถุประสงค์ที่ปลายทางไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ถ้าทิศทางเดียวกันก็ไม่ควรจะมาประกาศตัวเป็นศัตรูกันหรือว่าอยู่ในฝั่งประชาธิปไตยด้วยกันก็ไม่ควร เพราะว่าในอนาคตยังไงประชาธิปไตยทำงานร่วมกัน เพราะเราไม่สนับสนุนในการสืบทอดอำนาจให้ใครแล้วอยู่ ผมมองว่าในความสัมพันธ์จริงๆ ไม่มี เพราะไม่มีความขัดแย้ง
"วราวิทย์" - ถ้าผู้พันมองจากมุมของไทยสร้างไทย มองว่าเพื่อไทยไม่ได้เป็นศัตรู แล้วประเมินสิ่งที่เพื่อไทยมองไทยสร้างไทยยังไง คำพูดที่ว่ามีบางพรรคไปแอบอ้าง พรรคพี่-พรรคน้อง ทำให้สับสนไปแอบอ้างนโยบายบางนโยบายว่าไทยสร้างไทยเป็นคนคิด เป็นคนดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา เขามองไทยสร้างไทยเป็นแค่คู่แข่ง หรือเขามองลึกกว่านั้นว่าเป็นถึงขั้นศัตรู
"น.ต.ศิธา ทิวารี" - จริงๆ แล้วผมเชื่อว่าสิ่งที่เขามอง เขามองว่ายังไงก็เป็นพรรคที่จะอยู่ในฝั่งประชาธิปไตยอยู่แล้ว แต่ว่าในการเลือกตั้งช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะขณะนี้คนที่อยู่นอกระบบการเมือง แต่เป็นคนเลือกตั้งเขาค่อนข้างที่จะมองแล้วว่าจะสนับสนุนฝั่งไหน เหมือนคะแนนแต่ละฝั่งจะแยกออกจากกันโดยชัดเจน เพราะฉะนั้นคนที่สนับสนุนการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ โอกาสที่จะมาเลือกเพื่อไทย เลือกเสรีรวมไทย เลือกก้าวไกล หรือไทยสร้างไทย น้อยมากที่เขาจะย้ายมาเลือก คะแนนก็จะวนอยู่ในกล่องนี้นะครับ เหมือนปลาอยู่ในบ่อเดียวกัน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งเสร็จใหม่ๆ หรืออีก 4 ปี กลุ่มนี้ก็จะบอกเรามาร่วมกันทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน
แต่พอใกล้เลือกตั้งก็จะรู้สึกว่าเอ๊ะเราไม่ได้ไปแย่งคะแนนกับฝั่งโน่น คะแนนก็อยู่กล่องเดียวกัน เพราะฉะนั้นต้องประกาศให้ชัดเจนว่าเราอยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งไม่ได้เกิดเฉพาะฝั่งประชาธิปไตย
ผมบอก ณ วันนี้เลยพรรคที่อยู่ในฝั่งสนับสนุน "ลุงตู่" จะออกมาแย่งคะแนนกันละ ทีนี้เอากลับมาดูการแย่งคะแนนกันประโยชน์ที่ได้ตกกับพี่น้องประชาชนหรือประโยชน์ที่ได้ตกไปที่นักการเมือง ตรงนี้จะแตกต่างกันอยู่
เพราะฉะนั้นในมุมของไทยสร้างไทย ผมมองว่าคุณจะเป็นเพื่อไทย คุณจะเป็นก้าวไกล หรือเสรีรวมไทยอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคุณมีจุดยืนอยู่ในฝั่งประชาธิปไตยไม่สนับสนุนเผด็จการไม่ต่อยอดให้พล.อ.ประยุทธ์ เราคือเพื่อนกันเราคือกลุ่มเดียวกัน
"วราวิทย์" ถามทางฝั่งพรรคเพื่อไทยโดยคุณประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เวลาพรรคเพื่อไทยหาเสียงแล้วพอไปล็อกด้วยคำว่าแลนด์สไลด์พอโจทย์มาแบบนี้ มันก็เลยเหมือนจะต้องไปประกาศเป็นศัตรูกับฝ่ายที่เป็นประชาธิปไตยด้วยกัน ทั้งๆ ที่หลังเลือกตั้งที่จริงน่าจะร่วมมือจับมือกันได้ คุณประเดิมชัยอธิบายยังไงในมุมพรรคเพื่อไทยครับ
ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ - ผมคิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องของกลยุทธ์ของพรรค ในการที่จะเสนอตัวต่อพี่น้องประชาชน แน่นอนว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าการที่จะรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้มันต้องได้เสียงมากกว่า 350 เสียง นั้นหมายความว่า ต้องไม่เอา ส.ว. เข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้นในครั้งที่ผ่านมาก็เห็นอยู่แล้วถึงแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมาก แต่เราไม่สามารถที่จะรวมเสียง ตัดในส่วนของส.ว.ออกไปในการจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็จะเป็นปัญหาในเรื่องของการที่จะเสนอตัวมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
ทั้งกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ที่ทางพรรคเพื่อไทยเดินออกไปในการที่จะเสนอตัวต่อพี่น้องประชาชน ในเรื่องของการที่จะให้เลือกแบบที่ว่าสามารถจะไปจัดตั้งรัฐบาลได้ อันนั้นก็คงเป็นแนวทางของพรรคที่จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนมากกว่านะครับ ซึ่งเราไม่ได้มองว่าสิ่งที่เรานำเสนอไปมันจะไปเป็นกำแพง ในการขวางกั้นกับพรรคในซีกฝั่งที่เราทำงานในการเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยกัน โดยเฉพาะในเรื่องของฝั่งที่เราต้องการที่จะปิดอำนาจ ส.ว. หรือปิดสวิตช์ ส.ว.
" วราวิทย์" -ในมุมของคุณประเดิมชัยในฐานะส.ส. คิดว่าหลังเลือกตั้ง ไม่ว่าคะแนนจะออกมาเท่าไหร่ยังไง สมมติเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จะรวมงานกับไทยสร้างไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้จริงไหม บางคนบอกว่า นี่คือพรรคแรกที่เพื่อไทยจะปฏิเสธไม่ร่วมงานด้วย เพราะว่าอาจจะมีความหลังที่ไม่ค่อยดีต่อกัน
"ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ" - ผมว่าสูตรการเมืองในการเลือกตั้งที่จะถึง การที่ใครจะรวมกับใครหรือว่าไม่รวมกับใคร จะเร็วเกินไปในการที่จะตอบในมุมมองผม เพราะว่าตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพรรคไหนจะได้คะแนนเสียงมาเท่าไหร่ แน่นอนว่าถ้าทุกคนไปประกาศล็อกตัวเองหมด จนกระทั่งทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าไม่ได้และประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการที่จะมีตัวแทนเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพวกเขา ผมว่าการเมืองไม่ต้องมีสูตรล็อกตายตัวขนาดนั้น
ชมคลิป >>>