svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12%

ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1 % มูลค่า 27,445 ล้านดอลลาร์ โตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 แรงหนุนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คาดทั้งปีโต 11.6 - 12.1% ส่วนปีหน้าติดลบ 3.1 ถึง 1.1%

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงการส่งออกของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2568 มีมูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (890,204 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ที่ร้อยละ 7.1 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 11.8 การส่งออกยังคงได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามวัฏจักรขาขึ้นของคอมพิวเตอร์และการเติบโตของเทคโนโลยีสมัยใหม่ AI ส่งผลให้ภาพรวมของสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสร้างความไม่แน่นอนต่อการค้าในระยะข้างหน้า ด้วยสัญญาณการชะลอตัวของตลาดสำคัญ เช่น จีน ญี่ปุ่น CLMV ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงอยู่ในภาวะหดตัวจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ทั้งนี้ การส่งออก 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 12.6 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 13.7

นันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า

“การส่งออกยังได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ตามวัฎจักรขาขึ้นของคอมพิวเตอร์ และการเติบโตของเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้ง AI ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าการส่งออกของไทยในเดือนธ.ค.นี้ จะมีมูลค่าราว 25,000-26,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากอยู่ในกรอบนี้ คาดว่าส่งผลให้มูลค่าการส่งออกของไทยทั้งปี จะอยู่ที่ราว 3.35 - 3.37 แสนล้านดอลลาร์  ทำให้การส่งออกทั้งปีจะขยายตัว 11.6-12.1% ส่วนการประเมินทิศทางการส่งออกไทยในปี 69 นั้น กระทรวงพาณิชย์ ประเมินเบื้องต้นว่าจะอยู่ในช่วง -3.1 ถึง 1.1%”

มูลค่าการค้ารวม

มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2568 การส่งออก มีมูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 7.1 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 30,172.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 17.6 ดุลการค้า ขาดดุล 2,726.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 310,706.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.6 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 315,662.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.4 ดุลการค้า ขาดดุล 4,956.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤศจิกายน 2568 การส่งออก มีมูลค่า 890,204 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.7 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 991,244 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.0 ดุลการค้า ขาดดุล 101,040 ล้านบาท ภาพรวม 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 10,207,181 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.2 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 10,493,934 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.0 ดุลการค้า ขาดดุล 286,753 ล้านบาท

ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12% ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12% ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12% ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12% ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12%

การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 9.5 (YoY) หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน โดยสินค้าเกษตร หดตัวร้อยละ 15.7 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 2.3 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 6.6 ขยายตัวต่อเนื่อง 26 เดือน (ขยายตัวในตลาดเนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แคนาดา และอิหร่าน) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 171.4 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์) กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัวร้อยละ 20.3 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ เมียนมา และแคนาดา) และเนื้อและส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้ ขยายตัวร้อยละ 55.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 18 เดือน (ขยายตัวในตลาดเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี มาซิโดเนีย แอลเบเนีย และเบลเยียม) 

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว หดตัวร้อยละ 18.7 หดตัวต่อเนื่อง 13 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ แอฟริกาใต้ จีน ฮ่องกง และปาปัวนิวกินี แต่ขยายตัวในตลาดอิรัก โมซัมบิก แองโกลา มาเลเซีย และเบนิน) ยางพารา หดตัวร้อยละ 12.0 หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (หดตัวในตลาดมาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ เกาหลีใต้ และอินเดีย แต่ขยายตัวในตลาดจีน เวียดนาม สเปน เยอรมนี และปากีสถาน) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 5.9 หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น แคนาดา อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และลิเบีย แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย อิสราเอล ไต้หวัน และสวิตเซอร์แลนด์) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัวร้อยละ 43.1 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (หดตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ เวียดนาม มาเลเซีย และฮ่องกง แต่ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น) 

ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12%

ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 28.8 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ เบลเยียม และเม็กซิโก) เครื่องดื่ม หดตัวร้อยละ 19.9 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (หดตัวในตลาดเวียดนาม เมียนมา มาเลเซีย จีน และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดลาว ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิสราเอล) และน้ำตาลทราย หดตัวร้อยละ 9.5 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน (หดตัวในตลาดกัมพูชา ลาว ไต้หวัน อินโดนีเซีย และเมียนมา แต่ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน ปากีสถาน และเกาหลีใต้) ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 0.7

การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 12.2 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 20 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 59.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 20 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 66.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 13 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย ฮ่องกง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 68.0 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สิงคโปร์ เม็กซิโก จีน และไอร์แลนด์) แผงวงจรไฟฟ้า ขยายตัวร้อยละ 17.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (ขยายตัวในตลาดฮ่องกง มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ และญี่ปุ่น) 

หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 17.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ไต้หวัน สาธารณรัฐเช็ก ไอร์แลนด์ และเวียดนาม) แผงสวิตซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า ขยายตัวร้อยละ 35.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 23 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเยอรมนี) ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 8.0 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน (หดตัวในตลาดฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ เวียดนาม ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบีย แต่ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย มาเลเซีย อาร์เจนตินา จีน และเนเธอร์แลนด์) 

ผลิตภัณฑ์ยาง หดตัวร้อยละ 12.1 กลับมาหดตัวในรอบ 3 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เวียดนาม ออสเตรเลีย และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี)  เคมีภัณฑ์ หดตัวร้อยละ 13.6 หดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน (หดตัวในตลาดจีน อินเดีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม เบลเยียม ลาว เกาหลีใต้ และจิบูตี) เม็ดพลาสติก หดตัวร้อยละ 11.4 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาด จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และญี่ปุ่น แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ บราซิล โมซัมบิก และสเปน) ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 17.1

ตลาดส่งออกสำคัญ

การส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวสูงและเป็นแรงหนุนภาพรวมการส่งออก ขณะที่ตลาดหลักส่วนใหญ่ อาทิ จีน ญี่ปุ่น และ CLMV ชะลอตัวลง ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ (1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 7.4 โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 37.9 สหภาพยุโรป (27) ร้อยละ 12.0 และอาเซียน (5) ร้อยละ 5.7 แต่กลับมาหดตัวในตลาด จีน ร้อยละ 7.8 ญี่ปุ่น ร้อยละ 8.9 CLMV ร้อยละ 18.0 ตามลำดับ ขณะที่ตลาด (2) ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 7.6 โดยขยายตัวในตลาดเอเชียใต้ ร้อยละ 52.5 ทวีปออสเตรเลีย ร้อยละ 2.7 และสหราชอาณาจักร ร้อยละ 6.5 ขณะที่หดตัวในตลาดตะวันออกกลาง ร้อยละ 3.6 ทวีปแอฟริกา ร้อยละ 1.9 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 1.0 และรัสเซียและกลุ่ม CIS ร้อยละ 24.9 (3) ตลาดอื่น ๆ หดตัวร้อยละ 30.1 

ตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 37.9 (ขยายตัวต่อเนื่อง 26 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 29.9 

ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12%

ตลาดจีน หดตัวร้อยละ 7.8 (หดตัวในรอบ 14 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ทองแดงและของทำด้วยทองแดง ยางพารา และอากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 13.4 

ตลาดญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 8.9 (หดตัวในรอบ 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น ทองแดงและของทำด้วยทองแดง อัญมณีและเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 0.5

ตลาดสหภาพยุโรป (27) ขยายตัวร้อยละ 12.0 (ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ และยางพารา ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 8.5 

ตลาดอาเซียน (5) ขยายตัวร้อยละ 5.7 (ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 6.4

ตลาด CLMV หดตัวร้อยละ 18.0 (หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องดื่ม สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น สินค้าปศุสัตว์อื่น ๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 2.0 

ตลาดเอเชียใต้ ขยายตัวร้อยละ 52.5 (ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และน้ำมันสำเร็จรูป ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 36.3 

ตลาดทวีปออสเตรเลีย ขยายตัวร้อยละ 2.7 (กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และข้าว ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 หดตัวร้อยละ 5.2 

ตลาดตะวันออกกลาง หดตัวร้อยละ 3.6 (หดตัวในรอบ 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ ข้าว และผลไม้กระป๋องและแปรรูป สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 3.6 

ตลาดทวีปแอฟริกา หดตัวร้อยละ 1.9 (หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เคมีภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 1.1 

ตลาดลาตินอเมริกา หดตัวร้อยละ 1.0 (หดตัวในรอบ 5 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้า สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 14.7 

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS หดตัวร้อยละ 24.9 (หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน) สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อากาศยาน ยานอวกาศ และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 14.0

ตลาดสหราชอาณาจักร ขยายตัวร้อยละ 6.5 (ขยายตัวในรอบ 3 เดือน) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ สินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น ไก่แปรรูป เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ทั้งนี้ 11 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวร้อยละ 7.5

ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12% ส่งออก พ.ย. ขยายตัว 7.1% โตต่อเนื่อง 17 เดือน คาดทั้งปีโต 12%

แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป

แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2568 และปี 2569 คาดว่า การส่งออกปี 2568 จะขยายตัวมากกว่าที่คาด ในระดับสองหลัก โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความต้องการในระดับสูง และการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีน และประเทศต่าง ๆ ผ่อนคลายลงกว่าช่วงต้นปี สำหรับในปี 2569 คาดว่าจะเติบโตชะลอลง จากภาวะเศรษฐกิจโลกและคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว ผลของมาตรการภาษีสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้น ปัญหาด้านราคาและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลต่อขีดความสามารถทางการแข่งขัน ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ และปัญหาสภาพอากาศรุนแรงจะส่งผลต่อสินค้าเกษตร ซึ่งการทำงานของกระทรวงพาณิชย์ในปีหน้าจะมุ่งเน้นการเร่งเจรจาความตกลง Reciprocal Trade กับสหรัฐฯ ให้แล้วเสร็จ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า รวมไปถึงกวาดล้างธุรกิจนอมินี และเดินหน้าเจรจาและผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อทางการค้า และร่วมมือกับภาคเอกชนผลักดันเป้าหมายการส่งออกให้เติบโตท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอและความไม่แน่นอนที่ยังมีต่อเนื่องในปีหน้า