ดูดจนล้น “เนวิน” รวมพลบ้านใหญ่บ้านรอง “ภท.” มีเวทมนตร์รัฐพันลึก

18 ธันวาคม 2568 ดูดจนล้น เนวิน-อนุทิน ดึงบ้านใหญ่บ้านรองไหลรวมภูมิใจไทย เฉพาะ สส.ปี 66 นับได้ 65 ชีวิต ส่วนใหญ่แตกทัพจากค่าย 2 ลุง 

 

กลไกรัฐ ทรัพยากร และรัฐพันลึก คือเวทมนตร์กล่อมอดีต สส.เข้าค่ายน้ำเงิน จนมีปัญหาในพื้นที่ และคนเก่าถูกทิ้ง

 

ปรากฏการณ์ “ดูดจนล้น” ของพรรคภูมิใจไทยในชั่วโมงนี้ คล้ายกับพรรคประชารัฐ ปี 2562 แต่ก็มีความต่างบ้างตรงที่ครูใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนักเลือกตั้งมืออาชีพ จึงกางแผนที่สมรภูมิรบ เจาะจงพื้นที่เป้าหมายชัดเจน

 

แม้ชั่วโมงนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล เรื่องคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 4/2568 ทั้ง “อนุทิน” และพรรคภูมิใจไทย จะมีคะแนนนิยมเฉลี่ยร้อยละ 10 แต่อดีต สส.ปี 2566 ก็แห่เข้าสังกัดมากมาย เพราะพรรคภูมิใจไทย คุมกลไกอำนาจรัฐ คุมแหล่งทรัพยากรภาครัฐ ซึ่งตรงกับสไตล์นักการเมืองบ้านใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม การที่มีคนใหม่เยอะ ก็เกิดปัญหาการแย่งชิงพื้นที่ โดยคนเก่าอยู่กับพรรคน้ำเงินมานาน เจอใบสั่งเปิดทางให้ “อดีต สส.ปี 66” พวกเขาก็ต้องขยับไปหาค่ายใหม่ 
 

 

65 อดีต สส.ซบน้ำเงิน
 

จะว่าไปแล้ว การเมืองแบบ “บ้านใหญ่” เป็นระบบพึ่งพาอาศัย มีร่มไม้ใหญ่ก็จะแห่ไปพักพิง เมื่อ “บ้านน้ำเงิน” มีความพร้อม และมีโอกาสที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อดีต สส.ปี 2566 จึงวิ่งเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประมาณ 65 คน

 

1.กลุ่มสุพรรณ-นครปฐม 10 คน นำโดย วราวุธ ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

 

2.กลุ่มบ่อน้ำบาดาล 6 คน ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย โดยกลุ่มนี้มีผู้นำคือ ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย และอดีต สส.กาญจนบุรี

 

3.กลุ่มมะขามหวาน 5 คน นำโดย สันติ พร้อมพัฒน์ ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่เป็น สส.เพชรบูรณ์ ยกเว้น จักรัตน์ พั้วช่วย ที่ทิ้งสันติไปสังกัดพรรคกล้าธรรม

 

4.กลุ่มมังกรน้ำเค็ม 14 คน นำโดย สุชาติ ชมกลิ่น รมว.ทส. ย้ายมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคเพื่อไทย

 

5.กลุ่มอดีต กปปส. 11 คน นำโดย เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ มาจากพรรค รทสช. ส่วนใหญ่เป็นอดีต สส.ชุมพร และสุราษฎร์ธานี

 

6.กลุ่มบ้านหรูระดับพรีเมี่ยม 6 คน นำโดย สันติ ปิยะทัต รมต.สำนักนายกฯ มาจากพรรค พปชร. แยกเป็นอดีต สส.ใต้ 4 คน และอดีต สส.อีสาน 2 คน

 

7.กลุ่มบ้านใหญ่อีสาน-ภาคกลาง 6 คน เป็นอดีต สส.เพื่อไทย ที่มีพื้นฐานเป็นบ้านใหญ่ดูแลตัวเองได้

 

8.กลุ่มบ้านใหญ่สงขลา นำโดย นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ที่มีอดีต สส.สงขลา และอดีต สส.นครศรีธรรมราช

 

9.กลุ่มบ้านใหญ่อีสาน 3 คน เป็นอดีต สส.พรรคไทยสร้างไทย ที่แยกตัวออกจากพรรคมานานแล้ว

 

10.กลุ่มบ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ มีอดีต สส. 1 คนคือ สมบัติ ยะสินธุ์ อดีต สส.แม่ฮ่องสอน พรรคประชาธิปัตย์ 
 

 

แต้มต่ออำนาจเหนือระบบ
 

การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2569 ภาพรวมยังเป็นการเมือง 3 ก๊กคือ “น้ำเงิน แดง ส้ม” แต่ปัจจุบัน มีฟ้าแทรกขึ้นมาเป็น “พรรคกระแส”

 

ดังที่ทราบกัน “เนวิน-อนุทิน” ผู้มากบารมีของพรรคภูมิใจไทย สถาปนาขั้วตัวเองเป็นตัวแทน “อนุรักษ์นิยม” ยึดกุมอำนาจทั้งในระบบ และมีอำนาจเหนือระบบหรือ “รัฐพันลึก” เป็นแรงเกื้อหนุน

 

นักวิชาการหลายสำนักยืนยันตรงกันว่า พรรคสีน้ำเงินมีต้นทุนทางการเมืองสูง (อำนาจเหนือระบบ) พร้อมกองหนุน “สภาสูง” เป็นฐานค้ำอำนาจต่อไปได้อีก 4 ปี

 

ด้วยเหตุนี้ อดีต สส.ปี 2566 , อดีต สส.รุ่นเก่า และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น จึงหลั่งไหลเข้ามาที่พรรคภูมิใจไทย จนเกิดปรากฏการณ์ “ดูดจนล้น”

 

หลังเลือกตั้ง 2569 พรรคภูมิใจไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยจะรวมกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชน ย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น