svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

แดงเพลิง “สุริยะ” แผ่รังสีตัวจริง “แพทองธาร” ถอย เพื่อไทยสู่ยุคนักเลือกตั้ง

คนแซ่จึงสายทุนสีแดง “สุริยะ” แผ่รังสีบารมี “แพทองธาร” ตระกูลชินวัตรถอย เปิดทางเพื่อไทยยุคนักเลือกตั้ง

22 ตุลาคม 2568 แดงเพลิง สุริยะ แผ่รังสีบารมี หลัง แพทองธาร ทิ้งเก้าอี้ ตระกูลชินวัตร ถอยหนึ่งก้าว เปิดทางเพื่อไทย สรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่

 

คนแซ่จึง เติบโตใต้ร่มเงา ชินวัตร จาก วังบัวบาน รับบทแม่บ้าน ทรท. ทะยานสู่ วังน้ำยม ก่อนเร้นกายไปนานนับสิบปี จึงหวนคืนเพื่อไทย

 

ในที่สุด พรรคเพื่อไทย ก็ยอมรับความเป็นจริงว่า ตระกูล “ชินวัตร” ต้องเปิดทางให้ “คนนอก” เข้ามาเป็นผู้นำพรรคทั้งนิตินัย และพฤตินัย

 

เมื่อพรรคเพื่อไทย เผชิญวิกฤตการเมือง ต้องกลายเป็นฝ่ายค้าน และคะแนนนิยมของพรรคก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ เพราะแบรนด์ “แพทองธาร” ขายไม่ได้

 

ชั่วโมงนี้ มีพิธีกรรมเปลี่ยนผ่าน หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 31 ต.ค.นี้

 

จะว่าไปแล้ว เพื่อไทยเคยมีหัวหน้าพรรค ที่ไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตรมาแล้ว 3-4 คน และเชื่อว่า หัวหน้าพรรคคนใหม่ จะต้องเป็นคนที่ “สุริยะ” ไว้วางใจได้  

2 ส.ศิษย์เอกมนตรี
 

34 ปีที่แล้ว “สุริยะ” เป็นนักธุรกิจคนแรกของตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่เข้าสู่ถนนการเมือง สมัยที่ “นักเลงกรุงเก่า” มนตรี พงษ์พานิช เป็นหัวหน้าพรรคกิจสังคม


ทำไม “สุริยะ” หอมกลิ่นการเมือง คำตอบอยู่ที่ “สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ” จ.ปทุมธานี ซึ่งสมัยโน้นคือ ศูนย์รวมนักการเมืองขาใหญ่ของประเทศ

 

ก่อนปี 2534 สรรเสริญ จุฬางกูร พี่ใหญ่ของมังกร “แซ่จึง” ชอบเล่นกอล์ฟ จึงอยากมีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง จึงใช้ บริษัท ซัมมิทโอโตซีท อินดัสตรี จำกัด ซื้อกิจการสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ ที่มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของ

 

เวลานั้น สรรเสริญมอบให้น้องชาย โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นคนดูแลสนามกอล์ฟ ซึ่งก๊วนกอล์ฟขาประจำ ก็ได้แก่ มนตรี พงษ์พานิช เสนาะ เทียนทอง ชูชีพ หาญสวัสดิ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน ฯลฯ

 

ปี 2536 มนตรี พงษ์พานิช ชวนสุริยะมาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยคมนาคม (สมศักดิ์ เทพสุทิน) ในรัฐบาลชวน 1

 

ปี 2541 สมัยรัฐบาลชวน 2 สุริยะเป็นรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในชีวิต ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยอุตสาหกรรม โควตา “มนตรี” หัวหน้าพรรคกิจสังคม

 

พ.ศ.นั้น หลายคนอาจไม่ทราบว่า มีการต่อสู้ทางความคิดภายในตระกูล “แซ่จึง” สุริยะสวมหัวโขน รมช.อุตสาหกรรม ส่วนหลานชาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแกนนำนักศึกษา สนนท. ได้เคลื่อนไหวต่อต้านโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของกระทรวงอุตสาหกรรม

 

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ “สุริยะ” และ “ธนาธร” จึงมีอุดมการณ์ มีแนวทางการเมืองต่างกัน และยากที่จะมาทำงานการเมืองร่วมกัน

 

ดังนั้น สุริยะก็เลือกจะปั้นหลานชาย “โฟม” พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ลูกชายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เป็นดาวเด่นดาวรุ่งของพรรคเพื่อไทย 



สุริยะ และหลานชาย โฟน พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ

จากวังบัวบานถึงวังน้ำยม
 

หลัง “เสี่ยหมึก” มนตรี พงษ์พานิช เสียชีวิต “สุริยะ-สมศักดิ์” จึงพาเพื่อน สส.พรรคกิจสังคม 6-7 คน เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ปี 2543

 

หลังเลือกตั้งปี 2544 พรรคไทยรักไทย มี สส.มากกว่า 200 คน เฉพาะ สส.ภาคเหนือ มี สส. 36 คน อยู่ในการดูแลของ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ซึ่งได้ก่อตั้ง “กลุ่มวังบัวบาน” เป็นมุ้งการเมืองแรกๆในพรรค ทรท.

 

เจ๊แดง มอบให้ “เสี่ยฮุก” บุญทรง เตริยาภิรมย์ ดูแล สส.กลุ่มวังบัวบาน และภายหลัง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ร่วมดูแล สส.ภาคเหนือ

 

27 ม.ค.2545 สุริยะ ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรค แทน ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ โดยการสนับสนุนของ “เจ๊แดง” เจ้าแม่วังบัวบาน

 

ก่อนการเลือกตั้งปี 2547 “สุริยะ-สมศักดิ์” แยกตัวออกไปตั้งกลุ่มวังน้ำยม เจ๊แดงก็ให้บุญทรงเปลี่ยนชื่อวังบัวบาน เป็นกลุ่มวังน้ำปิง

 

ช่วงปี 2549-2560 สุริยะเร้นกายหายไปจากประเทศไทย ไปรักษาตัวจากอาการป่วย ก่อนจะหวนคืนสู่การเมือง โดยตั้ง “กลุ่มสามมิตร” ร่วมกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน

 

“สุริยะ” ในวันนี้ ต่างจากปี 2545 เขาไม่ได้เป็นแค่ “แม่บ้านพรรค” หากแต่เป็น “ผู้มากบารมี” ชี้ทิศนำทางในยุคไร้เงาคนชินวัตรเป็นหัวหน้าพรรค