svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ซุ้มประชาพัฒน์ “ประภา” ทิ้งน้ำเงิน “ศักดิ์สยาม” ลบอาถรรพ์พ่ายนายใหญ่ไม่ได้

น้ำเงินพ่ายอาถรรพ์น้ำดำ “ประภา” ทิ้งภูมิใจไทย “ศักดิ์สยาม” สุดช้ำได้ผู้แทนฯ 1 ที่นั่ง ก็รักษาไว้ไม่ได้

สิ้นสุดกันที ประภา อำลาค่ายสีน้ำเงิน ศักดิ์สยาม สุดช้ำแพ้ทางเมืองน้ำดำ ได้ผู้แทนฯมา 1 ที่นั่ง ก็รักษาไว้ไม่ได้

เธอชื่อ ประภา ทายาทบ้านใหญ่ หจก.ประชาพัฒน์ ลุยเดี่ยวฝ่าดงสีแดงเข้าสภาฯ สถานีต่อไป หนีไม่พ้นซุ้มเจ๊ ด.-2 ส.

นับแต่การเลือกตั้ง สส.กาฬสินธุ์ ปี 2554 ศักดิ์สยาม ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย พยายามจะปั้น สส.เมืองน้ำดำให้ได้สัก 1-2 คน แต่เพิ่งมาประสบความสำเร็จเมื่อปี 2566

“เม” ประภา เฮงไพบูลย์ เป็น สส.กาฬสินธุ์ คนแรกของค่ายสีน้ำเงิน ด้วยความที่เธอเป็นทายาทบ้านใหญ่ “หจก.ประชาพัฒน์” อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ จึงถูกวางให้เป็นตัวเต็งมาแต่แรก

ประภา เฮงไพบูลย์ ล้างอาถรรพ์น้ำเงินแพ้ทางเมืองน้ำดำ เอาชนะ พีระเพชร ศิริกุล อดีต สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย
 

ชั่วโมงนี้ มีความชัดเจนแล้วว่า “สส.เม” โบกมือลาพรรคภูมิใจไทย โดยโหวตสวนมติพรรคติดต่อกัน 3 ครั้ง และอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคก็กรวดน้ำคว่ำขันกันไปแล้ว 

สส.เม สมัยหน้าเลือกตั้งปี 2566

ย้อนไปช่วงต้นปี 2566 “เสี่ยหมู” วิรัช พิมพะนิตย์ แกนนำค่ายสีน้ำเงินเมืองน้ำดำ ได้เอ่ยปากกับ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม ขอย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ถือจากกันด้วยดี

วิรัช พิมพะนิตย์ อดีต ส.อบจ.กาฬสินธุ์ เขต อ.เมือง ได้ลงสมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ มาแล้ว 3 หน โดยสวมเสื้อพรรคชาติไทย และพรรคภูมิใจไทย แต่พ่ายเพื่อไทยทุกครั้ง

เมื่อย้ายมาสังกัดค่ายสีแดง “เสี่ยหมู” ชนะคู่แข่งขาดลอย และเป็นแกนหลักเพื่อไทยเมืองกาฬสินธุ์ และสมัยหน้า “สส.เม” คงย้ายมาร่วมทีมกับเสี่ยหมู

บ้านใหญ่ หจก.ประชาพัฒน์
 

เนื่องจาก ครอบครัว “สส.เม” คือ หจก.ประชาพัฒน์ ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เฉพาะโครงการทางหลวงชนบท สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ได้พึ่งใบบุญ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สมัยนั้น

ต้นปี 2567 สมัยนายกฯ เศรษฐา มาตรวจราชการที่กาฬสินธุ์ จึงมีภาพ สส.เม-ประภา เฮงไพบูลย์ นั่งรถคันเดียวกับ มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม แกนนำเพื่อไทย ซึ่งเป็นคนสนิทของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม

ตอนนั้น หัวคะแนนแถวเมืองน้ำดำจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันว่า สส.เม อาจย้ายพรรคในการเลือกตั้งสมัยหน้า

เดือน มิ.ย.2568 สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ไปตรวจราชการที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีการแสดงพลัง อสม.ทั้งจังหวัด ก็ปรากฏภาพ “สส.เม” ไปร่วมต้อนรับ พร้อมกับ สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย

สส.บ้านใหญ่ กับทีม อสม.
 

บ้านใหญ่เลือกขั้วรัฐบาล
 

เมืองน้ำดำ เป็นฐานที่มั่นสำคัญของเพื่อไทย มาเกือบ 20 ปี ก็มีเพียงปี 2566 ที่ถูกพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย เจาะไปได้ 2 เขต

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 4 อ.สมเด็จ อ.สหัสขันธ์ อ.สามชัย และ อ.คำม่วง ประภา เฮงไพบูลย์ ได้ 31,534 คะแนน ชนะแชมป์เก่า พีระเพชร ศิริกุล ที่ได้ 26,766 คะแนน

ตัวแปรที่ทำให้เพื่อไทยแพ้ในเขตนี้ก็คือ ปัจจัยบ้านใหญ่ หจก.ประชาพัฒน์ แถมถูกค่ายก้าวไกลตัดแต้ม เพราะผู้สมัคร สส.สีส้มได้มากถึง 22,020 คะแนน

ปัจจุบัน “ครูต๋อย” พีระเพชร ศิริกุล อดีต สส.กาฬสินธุ์ ลาออกจากเพื่อไทย มาสนับสนุน วิรัตน์ ภูต้องใจ อดีตประธานสภา อบจ.กาฬสินธุ์ ลงสนาม สส.เขต 4 สมัยหน้า ในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ 

ครูต๋อย ผู้แทนเก่าขยับออกจากรังเก่า ในจังหวะเดียวกันกับ “สส.เม” ประภา เฮงไพบูลย์ สส.กาฬสินธุ์ เขต 4 แหกมติภูมิใจไทย หนุนรัฐบาลแพทองธาร

ว่ากันว่า “ครูต๋อย” ลูกหม้อพรรคทักษิณ จำใจหิ้วกระเป๋าออกจากเพื่อไทย เพราะรู้ข้อมูลว่า “เจ๊ ด.” แม่ทัพค่ายสีแดงอีสานเหนือ โดยการสนับสนุนของ “2 ส.” ได้เลือกทายาทบ้านใหญ่ อ.สมเด็จ ลงสนามสมัยหน้า

จะว่าไปแล้ว การย้ายพรรคของ “นักเลือกตั้ง”สไตล์บ้านใหญ่ ปัจจัยแรกที่เลือกสังกัดพรรค ไม่ใช่อุดมการณ์การเมือง หากแต่อยู่ที่เงื่อนไขการได้ร่วมงานกับพรรครัฐบาลมากกว่า