17 กุมภาพันธ์ 2568 เพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยภาพขณะศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 (นครศรีธรรมราช) สำรวจพบวาฬบรูด้าอวดโฉมไม่ต่ำกว่า 7 ตัว โดยระบุว่า ระหว่างวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 (นครศรีธรรมราช) เปิดเผยว่า ทีมวิจัยได้ร่วมสำรวจ ติดตาม และประเมินสถานภาพโลมาและสัตว์ทะเลหายาก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง และอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้
โดยสำรวจทางเรือด้วยวิธี line intersect และใช้วิธีถ่ายภาพทางอากาศ (อากาศยานไร้คนขับ) เพื่อนับจำนวนประชากรของสัตว์ทะเลหายาก
ทีมสำรวจพบวาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 7 ตัว บริเวณเกาะแปยัด-เกาะรอก-เกาะง่าม และบริเวณเกาะท้ายเพลา-เกาะนายพุด
โดยวาฬบรูด้าที่พบมีพฤติกรรมรวมฝูงล่าเหยื่อโดยการไล่ต้อนฝูงปลาและมีการปล่อยฟองอากาศออกมาเพื่อต้อนให้ฝูงปลารวมกลุ่มกัน เรียกว่า Bubble-net feeding และมีการอ้าปากตะแคงด้านข้างเพื่อกินอาหาร ล่าเหยื่อโดยเทคนิคการว่ายต้อนปลาใกล้ผิวน้ำแล้วใช้หางตีน้ำ เรียกว่า Tail-slapping หรือ Lobtailing และยังอ้าปากตะแคงด้านข้างเพื่อกินอาหาร
วาฬบรูด้าที่พบยังมีพฤติกรรมแยกกันเป็นคู่ ๆ 2 ตัว ในการหากิน แต่ยังอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน และมี 1 ตัว ที่หากินอยู่โดดเดี่ยว
ทั้งนี้ทีมสำรวจได้มีการเก็บรวบรวมภาพถ่ายของสัตว์ทะเลหายากไว้เพื่อวิเคราะห์อัตลักษณ์เพื่อระบุรายชื่อและจำนวนประชากร (Photo ID) อย่างต่อเนื่อง
การสำรวจพบฝูงวาฬบรูด้าสร้างความชื่นใจนี้ ยังตรงกับวันอาทิตย์ที่สามของเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งในทุกปีตรงกับวันอนุรักษ์วาฬโลก (World Whale Day) ในปีนี้ตรงกับวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อรณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงชีวิตของวาฬในมหาสมุทรตามธรรมชาติ
ขณะที่เพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์คลิปขณะฝูงวาฬบรูด้า-โลมาหลังโหนกโชว์ตัวที่อ่างทอง แสดงพฤติกรรมล่าเหยื่อ พร้อมแนะนำ หากพบวาฬหรือโลมา เพื่อความปลอดภัยของทั้งนักท่องเที่ยวและสัตว์ทะเล ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 นครศรีธรรมราช ได้แนะนำว่าควรรักษาระยะห่างและความเร็วเรือรัศมี 400 เมตรความเร็วไม่เกิน 7 น็อต ห้ามเปลี่ยนความเร็วหรือทิศทางกะทันหัน ห้ามส่งเสียงดังรบกวน ห้ามให้อาหาร และห้ามว่ายน้ำหรือดำน้ำเล่นกับวาฬและโลมา การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้การท่องเที่ยวชมวาฬและโลมาเป็นไปอย่างปลอดภัยและยั่งยืน
ชมคลิปจากเพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : เพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช, ศูนย์ศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 5 นครศรีธรรมราช