โดย สุภัทร แสงดอก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 นพ.ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ แถลงข่าวว่า วันนี้ จ.แพร่มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 211 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในจังหวัด 128 ราย จาก”โครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน”และกลับมาจากต่างจังหวัด 76 ราย จากสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้ 7 ราย รวมรักษาตัวอยู่ 104 ราย รักษาหายแล้ว 105 ราย เสียชีวิต 2ราย
ทั้งนี้ จ.แพร่ได้มี “โครงการคนแพรไม่ทิ้งกัน” ซึ่งเป็นแนวทางรับผู้ติดเชื้อโควิด-19ที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล แล้วยังรอเตียงรักษาอยู่ที่พักอาศัย แต่มีภูมิลำเนาใน จ.แพร่ ที่มีความประสงค์จะกลับมารักษาตัวที่จังหวัดแพร่ โดยมีหลักเกณฑ์ให้โทรศัพท์ประสานมาที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประเมินความพร้อมในการเดินทางและประสานหาเตียงในโรงพยาบาลใน จ.แพร่ให้ โดยการเดินทางต้องเป็นรถที่โครงการจัดหาให้เท่านั้น ไม่ให้เดินทางโดยรถสาธารณะ เพราะว่าจะเป็นการแพร่กระจายเชื้อ ระหว่างเดินทาง
ในส่วนการเตรียมความพร้อมของเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 นั้น จ.แพร่มีเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยอาการหนัก 8 เตียง ผู้ป่วยอาการปานกลาง 22 เตียง ผู้ป่วยอาการน้อย ในโรงพยาบาล 80 เตียง และโรงพยาบาลสนาม 100 เตียง และมีสถานที่สำหรับกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง ที่มีสภาพที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมในการกักตัว ระดับจังหวัด 1 แห่ง จำนวน 80 คน ระดับอำเภอ ตำบล 96 แห่ง รองรับได้ 1,450 คน
นอกจากนี้ การให้บริการฉีดวัคซีนในประชากร 437,350 คนของ จ.แพร่ ข้อมูลการได้รับวัคซีนแล้ว ถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 22,650 คน คิดเป็นร้อยละ 5.17 โดยรับวัคซีนครบ 2 เข็ม 7,558 คน ได้รับแล้ว 1 เข็ม 15,092 คน อยู่ในการจองคิวรับวัคซีน 118,680 คน และยังคงมีการดำเนินการให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายจองคิวเข้ารับบริการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอย่างน้อย ร้อยละ 70 ของประชาชน
ส่วนมาตรการเฝ้าระวังโรคให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง และตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนมากกว่า 200 คน กรณีมีความจำเป็นให้ยื่นขออนุญาตต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแพร่ ปิดสถานบริการ และสถานประกอบการลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับบาร์ คาราโอเกะ ทุกแห่ง หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันเป็นการชั่วคราวโรงเรียนและสถาบันการศึกษา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และสถาบันกวดวิชา จัดการเรียนสอนที่โรงเรียนได้ โดยต้องดำเนินการตามมาตรการและเกณฑ์ Thai Stop COVID Plus พร้อมกับให้พิจารณาจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสม เช่น การเรียนการสอนแบบ Online เป็นต้น
ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ภายในเวลาปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามมาตรการฯโดยเคร่งครัด ห้างสรรพสินค้า เปิดได้ปกติ ยกเว้นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม และสวนสนุก ตลาดนัด ถนนคนเดิน และคลองถม ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตจัดการแข่งขันกีฬาได้โดยจำกัดจำนวนผู้ชม งดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มสังสรรค์ทุกกรณี การจัดงานศพ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศปก.ตำบลกำหนดอย่างเคร่งครัดกิจกรรม ส่วนกิจการ หรือสถานที่อื่นๆที่เปิดดำเนินการได้ตามปกติ ให้มีการปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A โดยเคร่งครัด
นพ.ขจร กล่าวอีกว่า การเดินทางข้ามเขตพื้นที่ จ.แพร่ ขอความร่วมมืองดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่ จ.แพร่ โดยไม่จำเป็น และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนแออัดหรือพื้นที่ที่มีการระบาดและพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตามประกาศของ ศบค. ให้แจ้งล่วงหน้าต่อ ผู้นำชุมชน อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เมื่อมาถึงให้รายงานตัว และลงทะเบียนในแพร่ชนะ และให้กักกันตนเองที่บ้าน 14 วัน หากจำเป็นต้องออกไปนอกบ้าน ให้ขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ และปฏิบัติตามมาตรการฯโดยเคร่งครัด กรณีแรงงานกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และผู้ที่บ้านหรือที่พักอาศัยไม่เหมาะสม ให้กักกันตัวในสถานที่กักกันตัวที่แต่ละพื้นที่กำหนดเท่านั้น
แต่ยกเว้น ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เข็มที่ 2 มาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดอื่นเข็มที่ 1 มาแล้วไม่น้อยกว่า 28 วัน ไม่ต้องกักกันตนเอง โดยให้แสดงหลักฐานการได้รับวัคซีน และปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งลงทะเบียนผ่าน คิวอาร์โค้ด แพร่ชนะ กรณีผู้ที่เดินทางเข้าพักอาศัยในโรงแรม ให้ลงทะเบียนและปฏิบัติตามมาตรการโดยเคร่งครัด