อุ้มลูกศักดิ์ดา “ชาดา” ท้ารบพลังกาญจน์ “สุรพงษ์” ดรีมทีมพยัคฆ์ประจิม

ไฟต์บังคับ ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ทิ้ง สส.นั่ง รมช.มหาดไทย ขอพึ่งบารมี ชาดา สู้ดรีมทีมพยัคฆ์ประจิม ชิงเก้าอี้ สส.เมืองกาญจน์

เลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4 สมรภูมิเดือด แดงรบน้ำเงิน ศึกนี้ชี้อนาคตแกนนำงูเห่า ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์

สมัยก่อน “กำนันเซี้ย” ประชา โพธิพิพิธ อดีต สส.กาญจนบุรี 4 สมัย มีฉายา “พยัคฆ์ประจิม” ซึ่งกำนันเซี้ยได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว

วันเวลาของกำนันเซี้ยผ่านพ้นไปแล้ว บริบทการเมืองชายแดนตะวันตก ได้เปลี่ยนจากยุคเจ้าพ่อไร่อ้อย เข้าสู่ยุครถไฟฟ้า

พ.ศ.นี้ “หมอหนุ่ย” สุรพงษ์ ปิยะโชติ อดีต รมช.คมนาคม กลุ่มพลังกาญจน์ สังกัดพรรคเพื่อไทย คือ “พยัคฆ์ประจิม” คนใหม่ มี สส.กาญจนบุรี อยู่ในซุ้ม 3 คนคือ อัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ,ชูศักดิ์ แม้นทิม และพนม โพธิ์แก้ว

สำหรับ ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ว่าที่ รมช.มหาดไทย ไม่ใช่ลูกเมืองกาญจน์ เขาสวมเสื้อแดงลงสนามชนิดแปลกแยกจากกลุ่ม “หมอหนุ่ย”

จริงๆ แล้ว ศักดิ์ดา อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีความใกล้ชิดกับแกนนำพรรคสีน้ำเงิน สายตรง โกเกี๊ยะ แต่ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นคนชวนศักดิ์ดามาอยู่ค่ายเพื่อไทย

พลันที่ศักดิ์ดา พา 8 สส.เพื่อไทย มาโหวตหนุนอนุทิน นั่งนายกฯ ได้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ด้วยเหตุนี้ ศักดิ์ดาจึงต้องลาออกจากเพื่อไทย และพ้น สส.โดยปริยาย

 

สงครามตัวแทนแดง-น้ำเงิน
 

การเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4 (อ.เลาขวัญ อ.ห้วยกระเจา อ.บ่อพลอย อ.หนองปรือ) แทนศักดิ์ดา จะมีขึ้นในวันวันอาทิตย์ที่ 19 ต.ค. 2568

พรรคภูมิใจไทย มีมติส่ง “ดรีม” วิสุดา วิเชียรศิลป์ ลูกสาวของศักดิ์ดาลงสนาม โดยมีพี่เลี้ยงชื่อ “สส.กุ๊ก” ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน สส.กาญจนบุรี เขต 3 พรรคสีน้ำเงิน

พรรคเพื่อไทย ส่ง “บิ๊กเลน” พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช คน อ.พนมทวน อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 หลังเกษียณ พล.อ.ชินวัฒน์ มาเป็นที่ปรึกษา “หมอหวัด” นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายก อบจ.กาญจนบุรี กลุ่มพลังกาญจน์

มองตามรูปการณ์ “ศักดิ์ดา” จะตกเป็นเป้าโจมตี 2 กรณีคือ “งูเห่าสีแดง” และลาออกเป็นรัฐมนตรี ทำให้มีเลือกตั้งใหม่เปลืองงบฯ

อีกด้านหนึ่งมันเป็นศึกศักดิ์ศรี 2 พรรค ต่างฝ่ายต่างแพ้ไม่ได้ “แดง-น้ำเงิน” จึงสู้กันเต็มที่ และจะมีผลต่อการเลือกตั้งทั่วไป ที่จะมีขึ้นต้นปี 2569

เชื่อว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ แม่ทัพใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน ที่ดูแลภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันตก จะลงมาบัญชาการเอง

เหมือนตอนเลือกตั้งปี 2566 “ชาดา” เจรจา “กำนันบอย” ปารเมศ โพธารากุล อดีต สส.กาญจนบุรี มาสังกัดค่ายสีน้ำเงิน เพื่อช่วย ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ที่เคยเอาชนะกำนันบอยเมื่อปี 2562

ชาดาประเมินดูแล้ว หากไม่ดึง “กำนันบอย” มาเป็นเสริมทัพ สส.กุ๊ก-ยศวัฒน์ อาจพ่ายแพ้ พลอย ธนิกุล เด็กปั้นของ “หมอหนุ่ย” สุรพงษ์ ปิยะโชติ

อีกอย่างหนึ่ง ชาดาประมาทไม่ได้ เพราะ “ผู้ใหญ่แหลม” ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ อดีต สส.กาญจนบุรี เขต 4 จะเลือกแดงหรือน้ำเงิน

เนื่องจากสมัยที่แล้ว ทายาทกำนันเซี้ย 2 คน สวมเสื้อภูมิใจไทยลงสนาม ภายหลังเกิดความขัดแย้ง ทำให้ผู้ใหญ่แหลมเสียความรู้สึกอย่างแรง 

เจ้าพ่ออุทัยดวลพลังกาญจน์
 

อันที่จริง สมรภูมิกาญจนบุรี เขต 4 (อ.บ่อพลอย อ.เลาขวัญ) ก็คือฐานที่มั่นใหม่ของ “กำนันเซี้ย” ซึ่งได้เคลื่อนทัพจากไร่อ้อย อ.ท่ามะกา มาทำธุรกิจใหม่ที่อาณาจักรเขาช่องพราน

กำนันเซี้ย แต่งงานกับ ทวี โพธิพิพิธ มีลูก 3 คนคือ สุเมศ หรือ อัฏฐพล โพธิพิพิธ อดีต สส.กาญจนบุรี , ปุณยวีร์ โพธิพิพิธ นายกเทศมนตรีเมืองท่าเรือพระแท่น และ ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ อดีต สส.กาญจนบุรี

ส่วนครอบครัวซ้อเขมพร มีลูก 5 คน อาทิ คม ธนิกุล ,กริช ธนิกุล และ พลอย ธนิกุล ซึ่งกำนันเซี้ย ได้รับลูกๆ ของเขมพรไว้เป็นลูกบุญธรรม

ปี 2566 “พลอย” ลูกสาวเฮียแคล้ว และลูกบุญธรรมกำนันเซี้ย ตัดสินใจลงสมัคร สส.กาญจนบุรี เขต 3 (อ.ท่ามะกา) เป็นครั้งแรกในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และพ่ายแชมป์เก่าฉิวเฉียด

เมื่อ “หมอหนุ่ย” สุรพงษ์ ปิยะโชติ ทิ้งนายก อบจ.กาญจนบุรี ไปนั่งเก้าอี้ รมช.คมนาคม “พลอย” ก็ได้รับตำแหน่งข้าราชการการเมืองหลายกระทรวง และช่วงเลือกตั้งซ่อม พลอย-ลูกสาวเฮียแคล้ว คงลุยหาเสียงช่วยเพื่อไทยเต็มที่

ดังนั้น สมรภูมิเมืองกาญจน์หนนี้ คอการเมืองคงจะได้เห็นการต่อสู้ของแม่ทัพใหญ่ ฝั่งหนึ่งคือ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ค่ายสีน้ำเงิน

อีกฝั่งหนึ่ง “หมอหนุ่ย” สุรพงษ์ ปิยะโชติ อดีต รมช.คมนาคม และ “หมอหวัด” นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายก อบจ.กาญจนบุรี ค่ายสีแดง ในนามซุ้มพลังกาญจน์ บ้านใหญ่ตะวันตก