
21 กันยายน 2568 พลันที่“ภูมิธรรม เวชยชัย”เเกนนำพรรคเพื่อไทย พูดเเบบทีเล่นทีจริงกรณีชงชื่อ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” สามีของ “พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ” ว่าหากสังคมสนใจจะไปทาบทาม “พงศ์” ให้มาลงสนามการเมืองกับพรรคพท.
จับความผ่านโสตคิดภูมิธรรม บางคนอาจมองว่าเป็นการพูดทีเล่นทีจริง บางคนมองว่า อาจเป็นไปได้!!!
ภาวะเเบบนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติสำหรับค่ายสีเเดงหลังจาก“ทักษิณ ชินวัตร/เเพทองธาร ชินวัตร”พ่ายในคดีเเละรับบ่วงกรรมไปเเล้ว...จนกระเทือนพรรคสีเเดงเเบบเลี่ยงไม่ได้
...ไม่ใช่ภาวะผิดปกติอีกเช่นกันที่“คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์” เเวะไปให้กำลังใจสส.พรรคสีเเดงคราวล่าสุดในข่วงที่สส.ขวัญกระเจิง เพราะสังคมรู้กันดีว่าเธอคือเเบ็กอัพเบอร์1ของพรรคอีกหนึ่งชีวิตเช่นเดียวกับโทนี่ วู้ดซัม
....ภาพที่ปรากฎ บ่งบอกให้รู้ว่า "ชินวัตรเเฟมิลี่ยังเลือกลุยต่อ"
จึงตามมาด้วยการโยนหินถามทางผ่านรายชื่อ “ณัฐพงศ์” มาลุยงานการเมือง
โดยเป็นว่าที่ทายาทการเมืองชนิดสายตรง"ชินวัตรเเฟมิลี่" ในการนำทัพสีเเดง
ดังนั้นสิ่งที่"บิ๊กอ้วน"กล่าวไว้ล่าสุด. ไม่น่าจะเกินความเป็นจริง.
มีความเป็นไปได้มีสูงเช่นกันที่ลูกเขยคนโตของบ้านจันทร์ส่องหล้าจะมารับบทบาททางการเมืองกับพรรคสีเเดง(อาจเป็นหัวหน้าพรรคพท.คนที่9/เเม่ทัพนำศึกเเทนเเพทองธารที่วันนี้ช้ำหนัก)
**หลายปีก่อนกระเเสข่าวเคยบ่งชี้ว่าณัฐพงศ์ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งของค่ายสีเเดง เเต่มีการปฏิเสธกรณีนี้ไป เเละสังคมได้พบชื่อเเพทองธารขึ้นมาเเทน***
เเต่ในยามนี้ "เเพทองธาร" ขยับลำบากกับหลายจังหวะทางการเมือง
ประการแรก : ในเเง่คะเเนนนิยม เเน่นอนว่า แพทองธาร. เจ็บปวดที่สุดเพราะโพลล์ต่างๆเเจ้งผลคะเเนนนิยมออกมาเเล้ว ผนวกกับผลงาน/กิจกรรมของครม.ในห้วงที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันทั้งแผ่นดิน ทรุดหนักอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนนับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคเพื่อไทย
เมื่อผลลัพธ์ จากโพล ย่อมทำให้แพทองธาร ต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกสาวอยู่คอยให้กำลังใจบิดาที่โดนคุมขังเเละออกมาสื่อความให้เเฟนพันธุ์เเท้ค่ายสีเเดงไม่ห่างเหิน(นัยว่าพรรคพท.ในตอนนึัต้องรักษาคะเเนนนิยม/ฐานเสียงเดิมไว้ก่อน)
ประการต่อไป. ความหมิ่นเหม่ต่อกม.ตอกฝาโลง อนาคตทางการเมือง
เท่านั้นไม่พอ แพทองธาร ยังต้องลุ้นว่าช่วงนี้. จะลงไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมสส.สองเขตหรือไม่(ศรีษะเกษ เขตห้า ลงคะเเนนวันที่ 28 กันยายน 2568 ระหว่าง“ภูริกา สมหมาย” จากค่ายสีเเดงกับ”จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล“ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย
วันที่ 19 ตุลาคม2568 ลงคะเเนน
เลือกตั้งซ่อมสส.กาญจนบุรี เขตสี่ โดยพรรคเพื่อไทยส่ง “พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช” อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ(ภูมิธรรม) ชน “วิสุดา วิเชียร์ศิลป์“ ค่ายสีน้ำเงินซึ่งเป็นลูกสาวของศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตสส.พรรคสีเเดงที่ย้ายไปพรรคภท.เเละเป็นว่าที่รมต.)
สองเขตนี้ เเดงชนน้ำเงิน มีเดิมพันสูงสองค่ายใหญ่ แม้พท.ได้กำลังใจมาระดับหนึ่งจากผลเลือกตั้งซ่อมสส.เชียงราย เขตเจ็ด เพราะสง่า พรมเมือง ผู้สมัครสส.พรรคเพื่อไทย ชนะสุทัศน์ ยาละ พรรคประชาชนขาดลอย
แต่ทว่า ศึกเเดงดวลน้ำเงินสองสนามนี้นั้น คือการวัดเรตติ้งสองพรรคบนสงครามจิตวิทยาการเมือง/วัดกระเเสสี่เดือนของครม.พรรคสีน้ำเงิน/วางเเผนเลือกตั้งงวดหน้าไปในตัว
ที่แน่ๆ พรรคน้ำเงินขยับตัวก่อน เช่นวันนี้. ( 21. ก.ย.68.) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ชิงความได้เปรียบ ลงสมรภูมิพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนกันไปแล้ว
เมื่อหันกลับมามอง หัวหน้าเพื่อไทย ยังไม่ขยับ. เพราด้วยอาการ ลูกผีลูกคน
โดยเฉพาะ ในเเง่กฎหมาย เเพทองธารอาจมีความเสี่ยงโดนใครบางคนร้องเรียนข้อหาขัดจริยธรรมร้ายเเรงอีกกระทงหนึ่ง ในการลงนามในเอกสาร/การปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าพรรค (เเต่เอกสารที่รับรองผู้สมัครสส.เมืองกาญจน์ เขตสี่ เธอในฐานะหัวหน้าพรรคน่าจะลงนามอนุมัติรายขื่อไปเเล้ว ) ดังนั้นในตอนนี้เเม้เธอยังทำหน้าที่เบอร์1ของพรรค เเต่หากมองภาพการประชุมพรรคสีเเดงคราวล่าสุดดีๆ พบว่า เธอนั่งประชุมด้านล่าง มิได้ขึ้นเวทีเพื่อนำการประชุม นับว่าพรรคเเละแพทองธาร เลือกไม่เสี่ยงในบางวาระ เพราะข้อหายุบพรรคหากเกิดในยามนี้นับเป็นวิกฤตซ้ำวิกฤตของพรรคสีเเดงเเบบเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้นการโยนหินถามทางที่"บิ๊กอ้วน"ชงชื่อลูกเขยคนโตบ้านจันทร์ส่องหล้าในคราวนี้จึงไม่ใช่สิ่งใหม่ทางการเมือง
มักเกิดขึ้นเสมอกับค่ายสีเเดง เเต่จะได้ผลลบ/ผลบวกอย่างไร ไม่กี่นาทีข้างหน้าสังคมจะบอกพรรคสีเเดงว่า ณัฐพงศ์มีลุ้นเเค่ไหนที่จะมากู้วิกฤตให้ค่ายสีเเดงในภาวะเเบบนี้
โดย กระบี่เดียวดาย เนชั่นทีวีออนไลน์