svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

"บิ๊กอ้วน"ลุยไฟ หวังคว้าขั้วอำนาจไว้ คุ้มหรือไม่คุ้ม ภายใต้ตำแหน่งรักษาการนายกฯ

อำนาจเสมือนเต็ม เเต่ก็ไม่เต็มเสียทีเดียว ...เเละบางเรื่องหากลุยไฟ อาจเสี่ยงโทษความผิด กับอำนาจสุดท้าย ที่ส่งดาบให้ "บิ๊กอ้วน" ทำหน้าที่ รักษาราชการแทนนายกฯ ติดตามได้จาก "เมฆาในวายุ"

“ยืนยันว่าเรายังเป็นรัฐบาล คนที่ได้รับเลือกมาทำหน้าที่แทนนายกฯ ก็มีอำนาจเต็ม แต่งตั้งโยกย้าย รวมทั้งยุบสภา แต่ภูมิใจไทยที่ประกาศ เป็นการประกาศในความว่างเปล่า ฝันกลางวันหรือเปล่าพรรคภูมิใจไทยเราอยู่ระหว่างเตรียมการตั้งรัฐบาล ไม่ได้กำหนดเวลาว่าต้องเป็นเท่าไหร่ ยืนยันว่าถ้าจะยุบสภา ก็ยุบเลย ใครมีปัญหาก็ไปฟ้องได้ เราไม่มีปัญหากับการใช้อำนาจของรัฐบาล ยืนยันการตั้งรัฐบาลยังไม่จบง่ายๆ”

วาทะดุดันหลังประชุมครม.นัดพิเศษวันที่ 30  สิงหาคม  2568  ของ   ”ภูมิธรรม เวชยชัย“ รองนายกรัฐมนตรีเเละรมว. มหาดไทย ที่วันนี้สวมบทสร.1 เต็มยศหลัง  “เเพทองธาร ชินวัตร”  พ้นหน้าที่ด้วยข้อหาขัดจริยธรรมร้ายเเรง

จากมติศาลรัฐธรรมน6:3 ที่บรรยายไว้ว่า  ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้อง ( นายกรัฐมนตรี  )สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา170 วรรคหนึ่ง(4) ประกอบ มาตรา160(5) นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้อง หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี คือวันที่ 1 ก.ค.2568 เพื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170วรรคหนึ่ง(4)แล้ว รัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง(1) โดยให้นำมาตรา 168 วรรคหนึ่ง(1) มาใช้บังคับ การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งต่อไป... 

ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี

เชื่อว่า  งานนี้เพื่อไทย อาศัยหนังสือเวียน สำนักเลขาธิการครม. ว่าด้วยแนวปฏิบัติหน้าที่ของครม.กรณีศาลรธน.วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรธน.มาตรา 170(4)  15 สิงหาคม 2567 ในการลุยไฟ โดยเฉพาะข้อ

2.2 เรื่องที่จำเป็น เร่งด่วน หรือเรื่องที่ต่อเนื่องให้พิจารณาดำเนินการเป็นเรื่อง ๆ ไป

พูดง่ายๆครม.เเพทองธารสิ้นสุดลง แต่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ( ไม่เรียกว่า รักษาการ และได้รับเงินเดือนแต่ยังไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน )  จนกว่าสภาผู้เเทนราษฎรจะลงมติเลือกสร.1คนใหม่ในวันที่  3 – 5 กันยายนนี้

 

อำนาจเสมือนเต็ม เเต่ก็ไม่เต็มเสียทีเดียว ...เเละบางเรื่องหากลุยไฟอาจเสี่ยงโทษความผิด

เเม้สภาวะขั้วเเดงยังฝืนตั้งครม.ใหม่เเละจ่อเข็น“ชัยเกษม นิติสิริ ”เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่32 ประชันกับขั้วสีน้ำเงินผสมสีส้มเเละพรรคอื่นๅที่ชู“อนุทิน ชาญวีรกุล ”ที่อ้างว่า 280  สส.ตุนไว้ลงมติในสภาผู้เเทนฯวีคหน้าให้ไปเป็นนายกฯคนที่ 32 


สีเเดงปะทะสีน้ำเงินงวดนี้ดุดันยิ่ง เเต่รูปเกมคล้ายว่ากระเเสเทไปยัง “ค่ายน้ำเงิน”  มากกว่าเเละมุมเเดงกำลังเลือดเข้าตา เหตุเพราะสร.1คนที่เเล้วพลาดท่ากับคลิปสนทนากับสมเด็จฮุนเซน  

ความจริงนั้น ใบหน้าเเกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ยืนล้อมบันไดตึกไทยคู่ฟ้า/โรงเเรมย่านหลานหลวงเป็นอย่างไรกับภาพที่เสี่ยหนูบุกพรรคต่างๆในการส่งเทียบเชิญคืออะไร....เเละยิ่งวันนี้ครม.ในส่วนพรรคกล้าธรรม/รวมไทยสร้างชาติสายสุชาติ ชมกลิ่น/ใครบางคนในพท.ลาประชุมนั้น 

นับถอยหลังได้เลยว่าพท.หมดลุ้นเก้าอี้สร.1ไปเเล้วร้อยละ 99 เพียงเเต่”บิ๊กอ้วน“ต้องยืนระยะเเบบเลือดเข้าตา อ้างสิทธิตามกฎหมายเเละคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่าครม.ชุดนี้ยังมีอำนาจเต็มในการใช้งบประมาณ/เเต่งตั้งข้าราชการเเละไพ่ตายคือ” ยุบสภา”

ภูมิธรรม เวชยชัย  รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
เเม้ ”บิ๊กอ้วน” อาจจะส่อกระทำผิดกฎหมายหลายวาระก็ตาม

เกมที่กระชับก่อนวันที่  9 กันยายน  (คดีชั้น14 รพ.ตำรวจ )  บีบพท.ให้ใช้ทุกกลยุทธ์รักษาอำนาจไว้ เเม้สุ่มเสี่ยงกับความผิดกฎหมายก็ตาม

ถอดความ”บิ๊กอ้วน” งวดนี้ได้ว่า การใข้งบประมาณปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท /การเเต่งตั้งข้าราชการที่มีผลกับดุลอำนาจนั้น นาทีนี้ค่ายพท.เร่งเต็มสูบเเบบลุยไฟ..

ไล่ย้อนดีๆ หน่วยงานที่กุมอำนาจการเลือกตั้งเเบบกลายๆนั้น  พบว่า กระทรวงมหาดไทยยังเหลือเก้าอี้ระดับซี 10 เเละซี9 อีกมหาศาลที่ยังรอการเเต่งตั้งโยกย้าย  เเม้มท.1คนนี้จะย้ายล้างบางผู้ว่าฯ/อธิบดี/นายอำเภอระลอกหนึ่งในห้วงเกือบสองเดือนไปเเล้วก็ตาม  เเต่กระทรวงนี้ยังคงอำนาจที่เอื้อกับการเลือกตั้งงวดหน้าที่หลายคนมองว่า ไตรมาสเเรกปี 2569 มีการลงคะเเนนสส. 400  เขตเเน่นอน ดังนั้นพท.ที่ยวบเต็มที่ย่อมคว้าโอกาสนี้ไว้ในมือ...หลังเสี่ยหนูเคยวางเครือข่ายไว้เต็มพื้นที่
บวกกับวาระการเเต่งตั้งตำรวจชั้นนายพล ที่”บิ๊กอ้วน”  เพิ่งเลื่อนประชุมก.ตร.วันที่ 28  ส.ค.ในวาระสำคัญคือการเเต่งตั้งโยกย้ายตำรวจชัั้นนายพล โดยโยกมาบรรจุการประชุมนัดตกค้างวันที่   31ส.ค.นี้  

เเม้บัญชีรายชื่อที่“พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” ผบ.ตร.ได้จัดส่งให้ ก.ตร. พิจารณาก่อนการประชุมนั้น “ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาแต่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”ที่เสนอแนะต่อ ผบ.ตร. เพื่อคัดเลือกเสนอให้ ก.ตร. พิจารณาตามกฎหมาย และเป็นเอกสารที่ถูกกำหนดให้เป็นข้อมูลข่าวสาร “ลับ”  เเต่ข่าวรั่วจนตำรวจอินฟลูเรนเซอร์บางรายในยุคนี้คว้าไปตีข่าวว่าตำรวจบางนายไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผบ.ตร.เเละบิ๊กอ้วนรับข้อร้องเรียนนั้นไว้เพื่อรื้อบัญชีใหม่

สื่อหลายเเขนงชี้ว่าภูมิธรรม ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้นำข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับการแต่งตั้งของพล.ต.ต.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.มาบีบผบ.ตร.ว่าเเต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม....

เเต่เเท้จริงเเล้ว ผบ.ตร.ไม่เคาะชื่อพล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (อดีตนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ) ที่แพทยสภา ลงโทษสั่งพักใช้ใบอนุญาตแพทย์ สืบเนื่องจากกรณีรักษาทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึง พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งคนที่แพทยสภา สั่งลงโทษพรรคใช้ใบอนุญาตแพทย์ ขยับเลื่อนชั้นเพราะสตช.กำลังไต่สวน 

บวกกับเคสบิ๊กเต่าที่หลายคนวงการสีกากีรู้ดีว่า บิ๊กเต่าเคยผ่านระบบฟาสต์เเทรคเเซงคนอื่นหรือไม่ในช่วงที่ผ่านมาเเละงวดนี้บิ๊กเต่าหวังผลเยี่ยงใด...

เคสวงการสีกากีนั้น หาก”บิ๊กอ้วน”  ลุยไฟไปย่านปทุมวันจริงในวันอาทิตย์นี้ เ พร้อมรื้อโผนััน  หากใคร/ฝ่ายใดฝืนกติกานั้น รับรองว่าอนาคตอาจจบไม่สวย เเละยิ่งการใช้อำนาจนั้นควรอยู่ในขอบเขต...

ขอเตือน” บิ๊กอ้วน” ให้คิดถึงอดีตว่า เดือนกันยายน 2554  “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สั่งย้ายคุณถวิล เลขาธิการสมช. ให้มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เเละย้ายพลตำรวจเอกวิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.

จุดประสงค์ คือ ต้องการแต่งตั้งพลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร.ที่จะเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 2555 ให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. เพราะพลตำรวจเอกเพรียวพันธ์ เหลือเวลาราชการเพียง1ปี  จนเป็น1ในชนวนการยึดอำนาจในปี2557

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ ”บิ๊กอ้วน”ไม่ควรลืมคือหลังการเลือกตั้งปี2566( วันที่ 11 สิงหาคม 2566 ) "ภูมิธรรม"  ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์  เรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งทำหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการยุติการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการแทน รวมถึงเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงสนองนโยบายรัฐบาลใหม่...

สองเหตุการณ์นี้น่าจะข่วยเตือนสติว่าการลุยไฟคราวนี้มิอาจใช่ผลดีกับ "บิ๊กอ้วน"  ในวันหน้า เพราะประวัติศาสตร์ระบุเเล้วว่าครม./นักการเมืองค่ายสีเเดงบางคนที่รับใช้บางครอบครัวนั้น สุดท้ายเเล้วต้องย้ายไปพำนักที่ทัณฑสถานอย่างไร/เพราะอะไร