"วันนอร์-โรม" ลุย เวทีแรก IPU อาเซียนบวก 3 ไทยชง "สแกมเมอร์" บรรจุวาระเร่งด่วน (มีคลิป)

19 ตุลาคม 2568 การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 151 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เริ่มขึ้นแล้วในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 ตามเวลาท้องถิ่น ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา หรือ CiCG ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 

 

 

โดยการประชุมวาระแรกก่อนการประชุมใหญ่ เป็นการประชุมอาเซียนบวก 3 ก่อนการประชุมกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ซึ่งทั้งสองวาระการประชุม คณะผู้แทนรัฐสภาทั้งไทยและกัมพูชาต่างเข้าร่วมประชุมด้วยกัน ท่ามกลางสถานการณ์คุกรุ่นของความขัดแย้งและข้อพิพาทของทั้งสองประเทศ 

 

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า การเลือกที่นั่งของคณะผู้แทนรัฐสภาไทยกับรัฐสภากับกัมพูชา ทั้งสองประเทศนั่งแถวติดกันในห้องประชุม

โดยทีมผู้แทนรัฐสภาไทย นำโดย ประธานวันนอร์ เดินทางถึงห้องประชุมก่อน และเลือกนั่งแถว 2 ซึ่งจะทำให้สามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวบนเวทีได้อย่างชัดเจน 

เมื่อผู้แทนรัฐสภากัมพูชามาถึง ซึ่งมีสมาชิกทั้งชายและหญิง ได้เลือกนั่งแถวหน้าสุด ซึ่งอยู่ด้านหน้าของคณะผู้แทนรัฐสภาไทยทันที ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นความจงใจนั่งในลักษณะปาดหน้าไทยหรือไม่ 

 

 

 

“โรม” แจ้งที่ประชุม - ไทยชง ”สแกมเมอร์“ บรรจุวาระเร่งด่วน 

เมื่อการประชุมเริ่มขึ้น ประธานวันนอร์ ได้กล่าวแนะนำคณะรัฐสภาไทยที่เข้าร่วมการประชุม อาทิ ดร.นพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา, นายรังสิมันต์ โรม และ นางฐิติมา ฉายแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นต้น 

 

จากนั้น นายรังสิมันต์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ไทยจะเสนอ ”ระเบียบวาระเร่งด่วน“ หรือ Emergency item เกี่ยวกับการเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน ซึ่งฝ่ายไทยมองว่าเป็นปัญหาสำคัญ

 

 

 

 

โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ หรือ ”สแกม“ ทำให้เกิดอาชญากรรมข้ามพรมแดนร้ายแรงตามมา ทั้งการค้ามนุษย์ การบังคับใช้แรงงาน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนรูปแบบต่างๆ จึงขอให้ชาติสมาชิกอาเซียน และจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลียน ในฐานะ “อาเซียนบวก 3” สนับสนุนร่างข้อมติของไทย เพื่อบรรจุเป็น “ระเบียบวาระเร่งด่วน” สำหรับการประชุมใหญ่ IPU

ทั้งนี้ การเสนอ ”ระเบียบวาระเร่งด่วน“ จะมีการเสนออย่างเป็นทางการในที่ประชุมใหญ่ IPU วันที่ 21 ตุลาคม เพื่อขอเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิก IPU ทั้งหมด 

 

 

 

”จีน-กัมพูชา“ กดไมค์ ตั้งข้อสังเกต-คัดค้านทันควัน 

ภายหลังการเสนอของ สส.รังสิมันต์ ปรากฏว่าคณะผู้แทนจากจีนได้มีข้อสังเกตบางประการ โดยขอให้ไทยพิจารณาการใช้ถ้อยคำบางคำในร่างข้อมติที่จะนำเสนอ เพื่อที่ทางผู้แทนจีนจะนำไปแสดงความคิดเห็นในรายละเอียดในช่วงของการเสนอระเบียบวาระเร่งด่วนอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้น ผู้แทนกัมพูชาได้ขอให้ไทยทบทวนร่างข้อมติเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดนเช่นกัน โดยใหัเหตุผลคล้ายๆ กับผู้แทนจีน แต่ขยายความเพิ่มว่า ขอให้ไทยให้น้ำหนักในเรื่องการพิทักษ์รักษามนุษยธรรมในภาวะวิกฤต ซึ่งเป็นหัวข้อหลักของการประชุม IPU มากกว่าการเจาะจงเรื่อง “อาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน” 

มีรายงานด้วยว่า ผู้แทนจากจีนมีความกังวลถ้อยคำบางคำที่ไทยใช้ในร่างข้อมติ ซึ่งส่งเป็นเอกสารเวียนเพื่อขอการสนับสนุนจากชาติสมาชิกในทุกภูมิภาค ซึ่งแบ่งเป็น 6 ภูมิภาค เพราะบางถ้อยคำที่ไทยใช้ ไปสอดคล้องหรือเป็นคำเดียวกับที่ปรากฏในรายงานของสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามพรมแดน เช่น คำว่า “แรงงานบังคับ“ หรือ Forced labor (การบังคับใช้แรงงานโดยขู่บังคับ แรงงานทาส หรือการค้ามนุษย์เพื่อการใช้แรงงาน) ซึ่งจีนมองว่าเป็นคำเฉพาะเจาะจงเกินไปและอาจมีความพยายามเชื่อมโยงให้กระทบกับจีน

 

 

 

ไทยไม่สน - ลุยล็อบบี้เพื่อนสมาชิก ”ออสซี่“ รับปากชูมือหนุน

 

อย่างไรก็ดี หลังจบการประชุมรอบอาเซียนบวก 3 ซึ่งมีช่วงพักสั้นๆ ก่อนเริ่มประชุมกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ซึ่งคณะผู้แทนรัฐสภาจีนเป็นประธาน ได้มีการล็อบบี้ขอการสนับสนุนร่างข้อมติของไทยที่จะเสนอเป็น “ระเบียบวาระเร่งด่วน” ทันที โดยผู้ที่ทำหน้าที่ล็อบบี้ขอเสียงสนับสนุน มีทั้งทีมไทยแลนด์จากรัฐสภาไทย และ สส.กัณวีร์ สืบแสง 

ปรากฏว่าเบื้องต้นไทยได้รับการตอบรับและสนับสนุนจากผู้แทนออสเตรเลีย และมาเลเซีย 

 

 

 

 

ดูคลิป