svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กลุ่ม สว.สำรอง ยื่นศาลทุจริตฯ ฟ้องเอาผิด กกต.ดองคดีฮั้ว สว.

คดีนะไม่ใช่มะม่วง! กลุ่ม สว.สำรอง ยื่นฟ้องเอาผิด กกต.ดองคดีฮั้ว สว.! ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดฟังคำสั่งชั้นตรวจฟ้องวันที่ 3 พ.ย.นี้

16 ตุลาคม 2568 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ นายวิเชียร ศรีสุด และสมาชิกชมรมสภาเที่ยงธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพล เรืองเกตุพันธุ์ ทนาย นบท, สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ที่เข้ารอบสุดท้ายรวม 2 คนเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เเละเลขาฯ กกต.รวม 8 ราย กรณี เมื่อเดือนกันยายน นายวิเชียร ศรีสุด ประธานสภาชมรม "สภาเที่ยงธรรม"หรือภาคีเครือข่ายเพื่อการปฏิรูปสถาบันนิติบัญญัติ หรือเรียกชื่อย่อว่า "ภปน." ได้รับร้องเรียนจาก สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ว่า กกต.ได้ทำสำนวนการยื่นถอดถอน สว.จำนวน 138 คน เป็นระยะเวลานานเกิน 1 ปี โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเลขาธิการฯ ไม่ได้ควบคุม กำกับ ดูแล ตรวจสอบและเร่งรัด การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน 

ทำให้สำนวนการถอดถอน สว.เกิดความล่าช้า กกต.จึงยังไม่ส่งสำนวนการยื่นถอดถอน สว.ไปยังศาลฎีกา (แผนกเลือกตั้ง) ทำให้ สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว.ได้รับความเสียหาย เนื่องจากเมื่อไม่มีการยื่นสำนวนถอดถอน สว.ไปยังศาลฎีกา ทำให้ สว.สำรองไม่อาจเลื่อนขึ้นไปแทนที่ สว.ที่ถูก ยื่นถอดถอนได้ และหากจำนวน สว.ที่เหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้อดีตผู้สมัคร สว.มีการเลือกตั้งซ่อมขึ้นแทน ตำแหน่งของ สว.ที่เหลืออยู่ได้ จึงได้ยื่นฟ้องคดีที่ กกต.ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบด้วย พรป.ปปช. มาตรา 172 ให้ พ.ต.อ.สมพล เรืองเกตุพันธุ์ ทนายความประจำชมรม "สภาเที่ยงธรรม" รับคดีไปดำเนินการยื่นฟ้อง กกต.เเละเลขาฯ กกต.รวม 8 ราย 

กลุ่ม สว.สำรอง ยื่นศาลทุจริตฯ ฟ้องเอาผิด กกต.ดองคดีฮั้ว สว.

พ.ต.อ.สมพล ทนายความประจำชมรมสภาเที่ยงธรรม เปิดเผยว่า ตัวเองได้รับมอบหมายจากสภาเที่ยงธรรมให้ดำเนินการฟ้องร้อง กกต.ทั้ง 8 คน หลังพบพฤติกรรมเข้าข่ายยื้อกระบวนการสอบสวนคดีฮั้ว สว.เพราะส่วนตัวมองว่า คดีดังกล่าวควรต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสว นตั้งแต่วันที่มีการประกาศผลเลือกตั้ง คือวันที่ 10 ก.ค. 2567 โดยคดีนี้ตามหลักแล้วจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี แต่พบว่าล่วงเลยมากว่าสามเดือนแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

ซึ่งคดีนี้การสอบสวนอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอสืบสวนสอบสวนแล้วเสร็จ และได้ส่งเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบภายในกรอบระยะเวลา 60 วัน นับแต่ที่ได้รับสำนวน เพื่อส่งสำนวนต่อไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อพิจารณาตัดสิน แต่กลับพบว่า กกต. ได้ตั้งหลักเกณฑ์ใหม่ โดยส่งสำนวนไปยังคณะต่าง ๆ ของ กกต.ที่ตั้งขึ้นมาเอง จึงมองว่าเป็นการยื้อเวลา เพราะหากนับรวมทุกขั้นตอนจะต้องใช้เวลามากกว่า 8 เดือน จึงจะสามารถส่งสำนวนให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ ซึ่งจุดนี้ตัวเองมองว่า ไม่น่าจะต้องใช้ระยะเวลานานขนาดนั้น


 

ภายหลังยื่นคำร้องต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้รับคำฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.182/2568 โดยจะนัดฟังคำสั่งชั้นตรวจคำฟ้องในวันที่ 3 พ.ย. 2568 เวลา 09.30 น.