
30 กันยายน 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีการรับทราบระเบียบต่างๆ ว่าการดำเนินการของสภาจะต้องมีการทำความเห็นจากหน่วยงานใด อย่างไรบ้าง
และวันนี้เป็นวันสิ้นปีงบประมาณ 2568 และประกาศจากหลายภาคส่วนจะหมดอายุลง จำเป็นต้องต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีวันนี้ เพื่อให้การปฎิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย กอ.รมน. ขอขยายเวลาในการประกาศพื้นที่ที่เป็นภัยต่อความมั่นคง ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยในครั้งนี้รัฐมนตรีการกระทรวงการท่องเที่ยวการกีฬา ให้ความเห็นว่า ในด่านชายแดนใต้ระหว่างไทย-มาเลเซีย ได้รับการร้องเรียนว่า อยากให้มีการขยายเวลาเปิดให้เร็วขึ้น และปิดช้าลงปิด ซึ่งนายกฯ เห็นว่าถ้าทำได้ จะมีผลดีต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะชายแดนไทย-มาเลเซีย จึงได้มอบหมายให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ เร่งพูดคุยกับทุกภาคส่วน และดำเนินการในเรื่องนี้
ส่วนเงินงบกลางเหลือจ่ายประจำปี 2568 กระทรวงการคลัง ขอใช้เงินงบกลางเหลือจ่าย เพื่อเติมเข้าไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่เราบอกว่าจะอยู่ในโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่ง 1 ในกลุ่มที่จะได้รับอานิสงส์จากโครงการนี้คือ ผู้ถือรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.4 ล้านคน ซึ่งในการจ่ายเงินครั้งนี้ กระทรวงการคลังขอใช้เงินเหลือจ่าย 22,780 ล้านบาท
การเติมครั้งนี้จะเติม 2 ครั้งเติม ให้ครั้งละ 850 บาท แต่ระยะเวลา 2 เดือน คือเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม โดยเดือนตุลาคมนี้ได้ 300 บาท พอเดือนพฤศจิกายนได้ 300 + 850 เป็น 1150 บาท เดือนธันวาคม 300 + 850 เป็น 1150 บาท เท่ากับได้รับการเติม 2 ครั้ง จำนวน 1700 บาท สำหรับกลุ่มแรก จึงสามารถใช้จ่ายได้ทันที กดเป็นเงินสดได้ ไม่ต้องเติมเงินเข้ามาเหมือนโครงการคนละครึ่ง และบัตรนี้จะไม่เข้าข่ายคนได้รับสิทธิ์คนละครึ่ง
ในส่วนของประชาชนทั่วไป และคนที่เสียภาษี ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนำหลักเกณฑ์และรายละเอียดเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า และจะไม่ล่าช้า เป็นไปตามกระบวนการเดิม โดยมีเงินเพียงพอในการดำเนินโครงการครบถ้วน พร้อมกันนี้ยังย้ำว่าแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในขณะนี้คือแอป “เป๋าตัง” เพียงแอปเดียว เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ขอกันงบกลางเหลือจ่าย เพื่อมาจ่ายหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นหนี้ที่รัฐบาลก่อขึ้น เพื่อให้สถาบันการเงินมีสภาพคล่องในการบริหารงานโดยให้ ธกส. 35,960 ล้านบาท ส่งผลให้งบกลางเหลือจ่ายหมดแล้ว นอกจากนี้นายกฯ ได้อนุมัติงบประมาณตามที่กองทัพขอ เพื่อใช้ในการป้องกันตามแนวชายแดน จำนวน 864 ล้านบาท แต่ไม่ขอลงรายละเอียด ในส่วนของหนี้สาธารณะ ทาง ครม. ได้อนุมัติแผนบริหารไว้เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งวิปรัฐบาล โดย นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นที่ปรึกษาของวิปรัฐบาล ส่วนประธานวิปรัฐบาลคือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และรองประธานประกอบด้วย นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพและ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล