
22 กันยายน 2568 ความพร้อมของพรรคภูมิใจไทย ส่วนหนึ่งมาจากจังหวะทางการเมืองที่อึมครึม อึดอัดอยู่ในยุครัฐบาลเพื่อไทย หลายๆ พรรคมีปัญหาภายใน แต่เมื่อรัฐบาลยังจับขั้วกันเหมือนเดิม จึงไม่เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง ในแบบ “ทะลุปัญหา”
แต่เมื่อเกิด “รัฐบาลพลิกขั้ว” ที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย ส่งให้พรรคแกนนำรัฐบาลเดิม คือ พรรคเพื่อไทย ไปเป็นฝ่ายค้าน มีการจัดรัฐบาลใหม่ เป็นรัฐบาล “เสียงข้างน้อย” แต่การไหลของ สส. และกลุ่มการเมืองในพรรคต่างๆ ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองในแบบ “ทะลุปัญหา” ดังกล่าว
ยิ่งพรรคภูมิใจไทยแสดงท่าทีว่าจะอยู่ในอำนาจแค่ 4 เดือนตาม MOA ยิ่งทำให้ “นักเลือกตั้ง” ประเมินอนาคตการเมืองได้ชัดเจน ทำให้กระแสการไหลของ สส.ไปสู่ “สภาวะแวดล้อมที่ได้เปรียบกว่า” ปรากฏชัดเจนขึ้น
ปรากฏการณ์นี้เห็นได้ชัดจาก...
- กลุ่ม 18 ภายใต้การนำของ “เสี่ยเฮ้ง - ดร.แด๊ก” ยอมทิ้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมรัฐบาลภูมิใจไทยแบบเต็มตัว มี สส.ตามมาอย่างเป็นทางการ 16 คน
- สส.ที่เหลือของรวมไทยสร้างชาติอีก 17 คน โหวตหนุนนายกฯอนุทิน โดยไม่ได้ตำแหน่งใน ครม.หนู 1
- เกิดกระแสเลือดไหลออกครั้งรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของพรรคเพื่อไทย
- พรรคประชาธิปัตย์สะดุดอีกรอบ เพราะหัวหน้าพรรคลาออก และแกนนำพรรครายอื่นๆ ไม่มีความพร้อมมากพอในการขับเคลื่อนพรรคต่อไป
จากปรากฏการณ์นี้ ทำให้ “กูรูการเมือง” อย่าง คุณศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และนักวิเคราะห์การเมือง มองว่า ถือเป็นจังหวะเวลาความได้เปรียบของพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากพรรคอื่นอยู่ในสถานการณ์ “หาหัว” แต่พรรคภูมิใจไทยกำลัง “สู้ถวายหัว” คือได้โอกาสฝ่าทุกวิกฤต เพื่อสร้างคะแนนนิยมในฐานะแกนนำรัฐบาล
คุณศักดา ชวนไล่เรียงสถานการณ์ “หาหัว” ทีละพรรค
พรรคเพื่อไทย - หัวหน้าพรรคใหม่ยังไม่นิ่ง แม้คุณอุ๊งอิ๊งจะยังนั่งเก้าอี้เดิมอยู่ แต่สถานะสั่นคลอนจากคดีคลิปเสียง และเสี่ยงถูกร้อง แม้แต่เลขาฯบอย สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเอง ก็ไม่ได้การันตีว่า เมื่อถึงฤดูเลือกตั้ง อดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งจะยังนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอยู่หรือไม่
พร้อมกันนั้นก็ต้องเร่งหา “แคนดิเดตนายกฯ” ชุดใหม่ เพื่อดึงคะแนนนิยมกลับมา หนึ่งในนั้นคือข่าว คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ลูกเขยคุณทักษิณ สามีคุณเอม พิณทองทา ซึ่งเป็นคนในตระกูล แต่มีความโดดเด่นเรื่องโปรไฟล์การบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ และบุคลิกลักษณะชวนดึงดูด
พรรคประชาชน - ลุ้นคดี 44 สส. อาจต้องหาหัวหน้าพรรคใหม่ เพราะ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ก็อยู่ในข่ายถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และโดนใบดำด้วย พร้อมกันนั้นก็ต้องหา “แคนดิเดตนายกฯชุดใหม่” ซึ่งคราวนี้พรรคส้มประกาศเสนอชื่อให้ครบ 3 คน ป้องกันอุบัติเหตุทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์ - ต้องควานหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพราะคนเดิมลาออก ซึ่งค่อนข้างหายาก มีแต่หน้าเก่า ส่วน “แคนดิเดตนายกฯ” ก็ต้องหาใหม่ยกชุดด้วยเช่นกัน
พรรครวมไทยสร้างชาติ - แม้หัวหน้าพรรคยังอยู่ แต่ต้องตั้งคำถามว่า “หัวเดียวกระเทียมลีบ” หรือไม่ เนื่องจากมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์โหวต ดดยไม่ไปสนับสนุน “นายกฯหนู” เพียง 3 คนเท่านั้น
ส่วนพรรคภูมิใจไทย อยู่ในบริบท “สู้ถวายหัว” โดยมี คุณอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น “หัวหอก” โชว์ความพร้อมทั้งในหมวกนายกฯคนใหม่ หมวกหัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ ที่มีดีกรีนายกฯต่อท้ายเรียบร้อยแล้ว ถือว่าได้เปรียบที่สุดในสนามเลือกตั้งปีหน้า หากไม่มีอะไรทำให้สะดุดขาตัวเองล้มไปก่อน
ความพร้อมของภูมิใจไทย พรรคอื่น “หาหัว” เพื่อไทย - หัวหน้าพรรคใหม่ยังไม่นิ่ง + หาแคนดิเดต
ประชาชน - ลุ้นคดี 44 สส. อาจต้องหาหัวหน้าพรรคใหม่ + หาแคนดิเดตให้ครบ 3
ประชาธิปัตย์ - หาตัวหน้าพรรคใหม่ + หาแคนดิเดต (ครบ 3 คนหรือไม่)
รวมไทยสร้างชาติ - หัวเดียวกระเทียมลีบหรือไม่
ภูมิใจไทย “สู้ถวายหัว?”
อนุทิน ชาญวีรกูล - โชว์ความพร้อมทั้งหัวหน้าและแคนดิเดต