
22 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำภาคใต้พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ อดีตกรรมการบริหาร และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เขต 1 , นายษณกร กี่สิ้น อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เขต 2 และนายวิวัฒน์ จินดาพล อดีตสมาชิก อบจ.ภูเก็ต เขต 3 โดยนายศุภชัย กล่าวว่า ทั้ง 3 คน จะผนึกกำลังร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมาถึงใน 6 เดือนข้างหน้านี้
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ได้มีการทาบทามผู้สมัคร จ.ภูเก็ต ทั้ง 3 เขต ซึ่งนโยบายของพรรคก่อนหน้านี้คือ การแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ในช่วงสมัย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม แต่ว่าหมดวาระของรัฐบาลเสียก่อน โดยการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พูดเสมอว่า หลังจากที่มีการถวายสัตย์ปฏิญาณ และแถลงนโยบาย จะถือว่า เป็นการนับหนึ่ง และจากนั้นอีก 4 เดือนก็จะยุบสภาตามที่ได้ลงนาม MOA กับพรรคประชาชน (ปชน.)
“ผมได้รับการเสนอจากนายกรัฐมนตรี ให้มาดูแลกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวภูเก็ต กำลังถามหาว่าปัญหาจราจรติดขัดจะแก้ไขอย่างไร หากผมได้ทำงานอย่างเต็มที่ จะหารือกับระดับจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดว่า ต้องทำอย่างไรบ้าง ซึ่งหากได้รายละเอียดแล้วก็จะลงพื้นที่ภูเก็ต” นายพิพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวอันดับที่ 2 รองจาก กทม. ซึ่งก็ต้องดูว่า จะทำอย่างไร เพื่อให้ภูเก็ตมีรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมด้วย และช่วยกันปั้นให้ภูเก็ตเป็นไข่มุกของโลก
เมื่อถามว่า จะมีว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ มาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ทางพรรคได้มอบหมายให้ตนดูแล 14 จังหวัดภาคใต้ ก่อนหน้านี้ได้เชิญเพื่อนๆ ที่มีอุดมการณ์เหมือนกันมาร่วมมือกัน ขณะนี้มีสมาชิกจาก จ.สงขลา มาร่วมงานเรียบร้อย จังหวัดฝั่งอันดามันก็มี จ.ภูเก็ต มาแล้ว 1 จังหวัด ส่วน จ.ตรัง ตนได้ฟัง นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 23 ก.ย.จะมีการหารือกับ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ตนได้ไปหารือ อย่างน้อยที่สุด เขต 1 และ เขต 2 จ.ตรัง ขณะนี้ได้มีการประกาศแล้ว จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย เหลือเพียง น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง เขต 3 และเขต 4 ต้องรอดูอีกนิดว่า นายสมชาย จะคุยกับนายเฉลิมชัย อย่างไร ก็จะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง
ส่วน จ.นครศรีธรรมราช ตนได้หารือกับหลายๆ กลุ่ม ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนเหมือนกับ จ.ภูเก็ต เราเจาะเป็นรายบุคคล และได้มีการไปหารือกับ นายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา หรือ นายกเอ มีความเห็นตรงกันว่า จะมาช่วยกัน ส่วนภรรยาของนายอภินันท์ คือ นางอวยพรศรี เชาวลิต สส.เขต 9 นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็น สส.อยู่ จึงไม่สามารถพูดอะไรได้ และหลายๆ เขตก็มีการคุยตกผลึกไปแล้ว
ขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คาดว่า ในเร็วๆ นี้ หลังแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จ จะเห็นภาพว่า มีใครมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยบ้าง แน่นอนเรามี สส.จากนราธิวาส 1 คน และมีผู้สมัครเกือบทุกเขตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะฉะนั้นมั่นใจว่า ในพื้นที่ภาคใต้ 14 จังหวัด จะมีข้อสรุปทั้งหมดภายในกลางเดือนตุลาคม
เมื่อถามว่า เคยมีกระแสข่าวว่า ตั้งเป้าพื้นที่ภาคใต้ 30 เก้าอี้ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยังยืนยัน ถ้าหากว่ามีผู้ที่มีความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อนๆ ที่ขณะนี้อาจเป็นสมาชิกอยู่ในพรรคอื่น จะมาร่วมกันพัฒนา และเดินทิศทางเดียวกับพรรคภูมิใจไทย เราก็ตั้งใจว่าภาคใต้ของเราขาดโอกาสในการพัฒนา อย่าลืมว่า ถนน 4 เลน ภาคใต้เป็นภาคหลังสุดที่ได้รับถนน 4 เลน ซึ่งขณะนี้ถนนสายหลัก ก็ยังมีถนน 4 เลนยังไม่ครบ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นโอกาสที่เราทำได้ เราก็พยายามผนึกกำลังกันเพื่อที่จะเสนอนโยบายให้รัฐบาล ขอโอกาสพัฒนาภาคใต้บ้าง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน
เมื่อถามว่า หลายคนมีความกังวลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย เริ่มมีการโจมตีพรรคภูมิใจไทยว่า การเดินสายเหล่านี้จะเป็นการไปขัดกับ MOA ที่ดำเนินการอยู่หรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า คำว่าขัด MOA ขณะนี้เราต้องบอกว่า ที่เราไปเชิญชวนคนนั้นคนนี้มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น คือหลังจากยุบสภา เราขอยืนยันว่า 4 เดือน ทางนายกฯ ได้มีการพูดหลายๆ เวที และหลายครั้งที่มีการแถลงข่าวว่า 4 เดือน ปฏิบัติตามข้อตกลง MOA แน่นอน เพราะฉะนั้นให้เพื่อนๆ พรรคประชาชน สบายใจได้ว่า สิ่งที่พวกเรากระทำอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องปกติสำหรับการที่จะมีการเลือกตั้ง แต่ถ้าเรารอยุบสภา แล้วหาผู้มาร่วมทำงานทางการเมือง ก็คงจะหาเสียงไม่ทัน
เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่า ขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะพรรคภูมิใจไทยเพียงพรรคเดียว ไม่ว่าจะเป็นพรรคอะไรก็แล้วแต่ ที่จดทะเบียนถูกต้องในประเทศ ขณะนี้ก็มีการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งล่วงหน้า จึงขอชี้แจงเพื่อนๆ พรรคประชาชนได้เข้าใจว่า พวกเราปฏิบัติตาม MOA อย่างแน่นอน การที่เราไปชวนหรือไปเชิญมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย นั่นถือเป็นพฤติกรรมปกติของการที่จะมีการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้