“อนุทิน”ลั่นเปิดด่านให้ทหารตัดสินใจเต็มที่ ไม่มีใครล็อบบี้ได้

21 กันยายน 2568 ที่ ศาลาประชาคมเทศบาลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทยจัดเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยผู้สมัครคือ อีฟ จินต์ตวรรณ ไตรสรณกุล ลูกสาวของ นายธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.ในพื้นที่

 

โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง ทั้งนี้นายอนุทิน กล่าวถึงประเด็นการเปิดด่าน ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ในด้านการรักษาอธิปไตยและดินแดนของประเทศ ตนได้หารือกับฝ่ายทหารแล้วว่า เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ จะเปิดโอกาสให้ทหารตัดสินใจอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลจะทำหน้าที่สนับสนุนและเคารพการตัดสินใจของฝ่ายทหาร ส่วนบทบาทของรัฐบาลคือการทำงานด้านการทูตและการเจรจา ซึ่งต้องมีความชัดเจนว่าไทยจะไม่ยอมรับเงื่อนไขใด ๆ จากฝ่ายตรงข้าม มีแต่เขาที่ต้องยอมรับเงื่อนไขของไทยก่อน จึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้

 

นายอนุทิน ย้ำว่า ต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา มีการคาดการณ์และมีผู้นำต่างประเทศพยายามติดต่อเพื่อเจรจาล็อบบี้ แต่ยืนยันว่า “ไม่มีใครล็อบบี้ผมได้” เพราะสิ่งที่ทำทั้งหมดต้องเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเท่านั้น และจะไม่มีการต่อรองใด ๆ จนกว่าฝ่ายตรงข้ามจะยอมรับเงื่อนไขของไทยก่อน

 

“ผมได้ทำความเข้าใจกับทางการทหารแล้วว่า เมื่อพวกผมได้เข้ามารับหน้าที่บริหารประเทศเมื่อไหร่ ก็จะให้ทางทหารได้ตัดสินใจอย่างเต็มที่ รัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาให้การสนับสนุนและเคารพการตัดสินใจของฝ่ายทหาร  ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็จะทำหน้าที่ในเรื่องของทูต ในเรื่องของการเจรจาเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งก็ต้องมีความชัดเจนว่าเราไม่ยอมรับเงื่อนไขของเขา เขาต้องยอมรับเงื่อนไขของเราเท่านั้น ถึงจะดำเนินการต่อไปได้ อยากให้มีความชัดเจนตรงนี้ เพราะช่วงที่ผ่านมามีการคาดคะเนหลายอย่างของผู้นำการต่างประเทศก็โทรมาล็อบบี้ผม ผมล็อบบี้ไม่ได้หรอกครับ ไม่มีใครล็อบบี้ผมได้ เพราะผมต้องทำให้กับประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีการต่อรองใดๆทั้งสิ้นจนกว่าเขาจะรับเงื่อนไขที่เราตั้งไว้ก่อน”นายอนุทินกล่าว

 

นอกจากนี้ นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ ถึงกระแสข่าวลือหนาหูว่าชาวบ้านกังวลจะมีการปะทะรอบสองในวันที่ 24–25 ก.ย.2568 นี้ ว่า เรื่องการทหาร การรักษาอธิปไตย และการปกป้องดินแดน เมื่อรัฐบาลเข้ามาบริหารแล้ว จะสนับสนุนการตัดสินใจของฝ่ายทหารเต็มที่ ขณะนี้ทุกพื้นที่ก็ประกาศกฎอัยการศึกอยู่แล้ว อำนาจการตัดสินใจและการบริหารสถานการณ์จึงอยู่ที่กองทัพ

 

ในส่วนของเงินเยียวยาที่ค้างจากรัฐบาลชุดก่อน ตนได้สั่งให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเร่งประสานกับฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย และจังหวัด เพื่อดำเนินการจ่ายเยียวยาให้ครบทุกครัวเรือนโดยเร็ว รวมถึงสิทธิ์ชดเชยตามกฎหมายทั้งกรณีปั๊มน้ำมันและผู้เสียชีวิต

 

เมื่อถูกถามว่าเสบียงของทหารเริ่มขาดแคลน นายอนุทินย้ำว่า ต้องสนับสนุนทหารทุกวิถีทาง หากมีปัญหาให้แจ้งมา เพราะทหารไม่ควรถูกปล่อยให้อดหรือขาดแคลน