svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“บัญญัติ” ตอบชัด “อภิสิทธิ์” เหมาะกลับมากอบกู้ ปชป.หรือไม่

“บัญญัติ” ตอบชัด ใครได้เปรียบเป็นหัวหน้าพรรค ปชป. และ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เหมาะสมกลับมาช่วยกอบกู้พรรคหรือไม่

16 กันยายน 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ภายหลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกออกจากหัวหน้าพรรค ปชป. ว่า ขอแสดงความชื่นชม นายเฉลิมชัย ที่เมื่อรู้ว่าสุขภาพไม่ดีท่ามกลางการขับเคี่ยว ต่อสู้ทางการเมือง ก็ได้ตัดสินใจเสียสละลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่วนตัวจึงขอเอาใจช่วยให้สุขภาพดีขึ้นโดยเร็ววัน เพื่อจะได้กลับมาทำงานช่วยพรรคกันต่อไป ผลการลาออกจากหัวหน้าพรรคในครั้งนี้ คนพรรคประชาธิปัตย์ต่างรู้สึกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่หัวหน้าพรรคลาออกจนถึงปัจจุบันนี้ มีผู้คนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์เกือบจะทุกวัน และมีการตั้งความหวังไว้มากพอสมควร

 

ดังนั้นเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น พอที่จะเป็นความหวังของประชาชนต่อไปได้ ทำให้คนประชาธิปัตย์มีกำลังใจเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และพร้อมจะทำหน้าที่ดูแลพรรคอย่างเข้มแข็ง

“สังคมมีความรู้สึกมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ไม่เหมาะสม ต่างๆในพรรค หลายต่อหลาย หลายคนซึ่งจะเป็นจุดดีอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้พรรคหรือคนของพรรคได้ตระหนักรู้ว่าสังคมภายนอกมองพรรคของเราเป็นอย่างไร ผมเคยพูดกับผู้คนในพรรคอยู่เสมอคนเป็นนักการเมือง ความคิดความเห็นของตัวเองย่อมจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือความคิดความเห็นของประชาชนโดยทั่วไป มีความศรัทธาเชื่อมั่นและสนับสนุนพวกเราอยู่ ความคิดความเห็นเหล่านั้นต้องถือเป็นความคิดที่มีความสำคัญสุดๆ ซึ่งเข้าใจว่าคราวนี้ ก็จะเป็นอีกจังหวะหนึ่งที่ให้คนของพรรคเราได้รับรู้รับทราบความคิดความเห็นของผู้คนข้างนอก อย่างที่ว่าเป็นอันมาก และจะได้นำมาประกอบการตัดสินใจว่าจะสนับสนุนใครผู้ใดให้ขึ้นมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในยุคที่มากด้วยการแข่งขันมากด้วยกันขับเคี่ยวต่อสู้ ท่ามกลางที่ประเทศ มีปัญหามากมาย เผื่อจะทำหน้าที่เป็นนักการเมืองเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชน ถือเป็นประสบการณ์ที่พรรคได้รับในช่วงไหนที่ผ่านมา”นายบัญญัติกล่าว

 

นายบัญญัติ ยังกล่าวถึงกรณีที่ประชาชนคาดหวังให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยนโฉมตัวเองว่า เป็นเรื่องธรรมดา ความจริงตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเองเสมอ และปรับปรุงอยู่เรื่อย แต่ยอมรับว่าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของประเทศอย่างรวดเร็ว และท่ามกลางปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ทำให้บางครั้งการเปลี่ยนแปลงของพรรค ดูจะยังไม่ค่อยทันอกทันใจผู้คน  ดังนั้นเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องตระหนัก และเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่ ในส่วนเหล่านี้เพื่อให้ทันอกทันใจผู้คน

บัญญัติ บรรทัดฐาน

 

ขณะที่กรณีนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความคิดเห็นให้มีการเปลี่ยนขั้วอำนาจและนำคนนอกมาบริหารพรรคใหม่  เรื่องนี้ นายบัญญัติ มองว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยในพรรคสูง  ดังนั้นความคิด ความเห็นที่แตกต่างกัน และหลากหลายเหล่านี้ ควรเป็นความคิดเห็นที่สมาชิกพรรคทั้งหลายมีบทบาทสำคัญ ในการลงคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคต้องเก็บเอามาคิดมานั่งวิพากษ์วิจารณ์

 

ส่วนจะโน้มน้าว สส. สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้กลับมารับตำแหน่งนี้หรือไม่นั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า ตนไม่ใช่ขาเชียร์นายอภิสิทธิ์  แต่ต้องยอมรับความจริงว่า ท่ามกลางปัญหาของประเทศที่หนักหน่วงอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ และท่ามกลางการแข่งขันอย่างจริงจัง เข้มข้นของแต่ละพรรคการเมือง ตนคิดว่า หัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลพรรคท่ามกลางภาวะเช่นนี้ ก็ควรจะเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ทันต่อการเปลี่ยนแปลงมากด้วยประสบการณ์ ซึ่งในส่วนนี้ต้องยอมรับความจริงเหมือนกันว่า นายอภิสิทธิ์อยู่ในฐานะค่อนข้างที่จะได้เปรียบ

 

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

 

เมื่อถามว่า แบรนด์ นายอภิสิทธิ์ จะสามารถจะกลับมากู้วิกฤติให้กับพรรคได้ใช่หรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าได้เปรียบ  และถือว่ามีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในวันนี้พอสมควร  แต่ลำพังตัวนายอภิสิทธิ์คนเดียว ก็คงจะยังไม่พอ ดังนั้นทีมงานกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ควรจะมีลักษณะคล้ายคลึงอย่างที่ว่านี้ คือวิสัยทัศน์ทางการเมืองใช้ได้ ต้องเท่าทันการเปลี่ยนแปลงและมีประสบการณ์มากพอสมควรจึงน่าจะเป็นความเหมาะสม