
16 กันยายน 2568 ที่หอประชุมเอนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “ส่งเสริมพลังเยาวชน สร้างความมั่นคงแห่งชาติ” ท่ามกลางเยาวชนกว่า 5,000 คนที่เข้าร่วมแน่นขนัดหอประชุม
ทันทีที่แม่ทัพภาค2 เดินทางถึง ก็ได้รับเสียงเชียร์และการต้อนรับจากเยาวชนจำนวนมาก หลายคนรุมเข้ามาขอถ่ายเซลฟี่ บรรยากาศคึกคักไม่ต่างจากทุกพื้นที่ที่แม่ทัพฯ เดินทางไปบรรยาย จนถูกขนานนามว่าเป็น “แม่ทัพฟีเวอร์”
ระหว่างการบรรยาย พลโทบุญสิน กล่าวถึงกรณีที่ "วาสนา นาน่วม" ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร เปิดเผยในรายการ “เรื่องใหญ่ Live Talk” ว่า ฐานทหารกัมพูชาที่ติดแนวชายแดนไทยหลายแห่งเริ่มว่างเปล่าเหมือนถูกถอนกำลังไปเองเป็นสิบฐาน โดยแม่ทัพฯ ชี้แจงว่า การถอนกำลังดังกล่าวอาจมีหลายเหตุผล บางพื้นที่ทหารกัมพูชาอาจรุกล้ำเข้ามา จึงถอยออกไป หรือบางแห่งเป็นหน้าผาที่ไม่มีประโยชน์ต่อการตั้งฐาน เมื่อเขาถอย ทหารไทยก็ต้องรุกเข้าไปควบคุมพื้นที่เช่นเดิม
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กัมพูชาถอนกำลัง เพราะแม่ทัพเคยประกาศว่าหากรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยให้ยิงได้เลยหรือไม่ แม่ทัพฯ ยืนยันว่า “ใช่ หากล้ำเข้ามา ก็ให้ยิงได้ทันที”
ส่วนประเด็นการใช้รองเท้ากันระเบิด แม่ทัพภาคที่2 เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องประเมินความเหมาะสมในสนามจริงก่อน ทั้งด้านความทนทานต่อแรงระเบิดและการใช้งานจริง แม้ว่าราคาจะพอรับได้ แต่สิ่งสำคัญคือการป้องกันไม่ให้กำลังพลบาดเจ็บสาหัส และถือเป็นนวัตกรรมที่ผลิตโดยคนไทยเอง
สำหรับการตรวจพบโดรนจากฝั่งกัมพูชา แม่ทัพฯ ระบุว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติอยู่แล้ว และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ "มาลี โสเจียตา" ออกมาเรียกร้องให้ไทยหยุด “บิดเบือนข้อมูล” เรื่องการตรวจพบโดรน แม่ทัพฯ ตอบอย่างชัดเจนว่า “เชื่อเค้าหรอ ผมยังไม่เชื่อเลย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พลโทบุญสิน บรรยายบนเวที และเปิดโอกาสให้นักศึกษาสอบถามประเด็นต่างๆ นศ.แพทย์ มข.ปีที่ 5 ในฐานะแพทย์ ได้ถามแม่ทัพภาคที่ 2 ว่า ถ้ามีชาวกัมพูชาเข้ามารักษาที่ประเทศไทยเราควรจะปฏิบัติกับเขาอย่างไร โดยมุมมองของแม่ทัพคือ ทั้ง 2 อย่างต้องมาประกอบกัน ถ้าผู้นำสองประเทศคุยกันรู้เรื่อง พวกเขาเหล่านั้นผู้นำเหล่านั้นก็จะไปบอกกล่าวประชาชนของประเทศของเขาว่า ต่อไปนี้เราจะเป็นมิตรกันนะ แต่ปัจจุบันมันใช่ไหม?
ผู้นำเขามองโลกในแง่ดีหรือเปล่า? เราสมควรที่จะอำนวยความสะดวกหรือไม่ มันเป็นคำตอบที่มีคำตอบได้หลายช้อยส์เหมือนกัน อีกอย่างหนึ่งคือเขาจะปลอดภัยหรือไม่
"แน่นอนครับ ระบบสาธารณสุขในประเทศไทยดีกว่าเขมรแน่นอน นี่คือสิ่งหนึ่งที่เขาเรียกร้องอยากจะมารักษาที่ไทย แต่คนไทยหายโกรธแค้นหรือยัง ที่ทหารเขมรยิงใส่ประชาชนตัวน้อยๆ 3 คนเสียชีวิต กำลังเป็นวัยสดใสทั้งนั้นเลย คนไทยรับได้ไหม มันต้องประกอบกัน แม่ทัพขอไม่ฟันธงในเรื่องนี้" พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว
ส่วนประเด็นถ้าเขามารักษาแล้วไม่ปลอดภัย ก็ไม่ควรจะมา และหากถามว่าผิดหลักสิทธิมนุษยชนไหม มันก็ผิดนะ แต่เอาชีวิตเขาไว้ก่อนดีกว่าไหมอย่างนี้