
1. ”สว.สีขาว“ และ “สว.กลุ่มหลากสี” เรียกร้องวุฒิสภาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ชัดเจน => เพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน
2. จับตาการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.อนุทิน => คาดว่าโฉมหน้า ครม.ใหม่ จะมีความชัดเจนช่วงปลายสัปดาห์ เพราะวันนี้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี (บ้างก็ว่า 6 หน่วยงาน บ้างก็ว่า 15 หน่วยงาน) และได้สรุปรอบสุดท้ายครบทุกตำแหน่งแล้ว คาดว่าจะมีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เร็วที่สุดในวันนี้ และช้าที่สุดวันพรุ่งนี้
3. รัฐมนตรีใหม่ “สายล่อฟ้า” ฝ่ายค้าน/พรรคประชาชนลับดาบรอเชือด => สส.พรรคส้มเตรียมใช้กลไกสภาตรวจสอบว่าที่รัฐมนตรีสายล่อฟ้า โดยเฉพาะ…
OO กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องนำเข้าขยะพิษ และลักลอบฝังกลบในประเทศไทย
OO กระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะดีเอสไอ เกี่ยวข้องกับคดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง แต่ว่าที่รัฐมนตรีมีชื่อเกี่ยวโยงกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์
OO กระทรวงคมนาคม เกี่ยวข้องกับที่ดินเขากระโดง เพราะกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย
OO กระทรวงมหาดไทย เกี่ยวข้องกับที่ดินเขากระโดง เพราะกำกับดูแลกรมที่ดิน
OO กระทรวงกลาโหม เกี่ยวข้องกับปัญหาไทย-กัมพูชา และรายชื่อแคนดิเดต รมช.กลาโหม คนใหม่ เกี่ยวพันใกล้ชิดกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์
- เตรียมการแถลงนโยบายของรัฐบาล “หนู 1”
4. สามพรรคการเมืองเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 => ต้องบรรจุระเบียบวาระ และพิจาณาในที่ประชุมรัฐสภาวาระ 1 ให้ได้ภายในเดือน ก.ย. จากนั้นให้ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณารายละเอียดช่วงเดือน ต.ค.ถึง พ.ย. และนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาวาระ 2-3 ในเดือน ธ.ค. เพื่อให้เสร็จทันทำประชามติ ไม่เร็วกว่า 90 วัน แต่ไม่ช้ากว่า 120 วัน ทันกับการเลือกตั้งทั่วไปพอดี เมื่อมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ตาม MOA ภายใน 4 เดือน ซึ่งจะครบในเดือน ม.ค.69
**ไทม์ไลน์รัฐบาล 4 เดือน ในเดือน ม.ค.69 นับจาก...
- คาดการณ์ ครม.ใหม่เข้ารับหน้าที่ (หลังโปรดเกล้าฯ และถวายสัตย์ฯ) ช่วงต้นสัปดาห์หน้า คือ 22 ส.ค.
- แถลงนโยบายภายใน 15 วัน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 คาดว่าราวสิ้นเดือน ก.ย. หรือ ต้นเดือน ต.ค.
- นับ 4 เดือน เริ่มจากเดือน ต.ค. ก็จะครบ 4 เดือน สิ้นเดือน ม.ค. หรือต้นเดือน ก.พ.69
- กรณียุบสภา ต้องเลือกตั้งไม่เร็วกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน
- หากจะเลือกตั้งวันเดียวกับการทำประชามติ ต้องมีเวลาเผื่อไว้สำหรับรณรงค์ให้ประชาชนทราบหัวข้อประชามติอย่างน้อย 30 วัน เพราะเมื่อบวกกับ 60 วันจัดเลือกตั้งหลังยุบสภา จึงจะเข้าเกณฑ์ 90 วันในการทำประชามติเร็วที่สุดตามกฎหมาย
5. พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นคำร้องสอยพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และนายกฯอนุทิน
- วันอังคารที่ 16 ก.ย. จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย เคาส่งคำร้อง “นิติสงคราม” 3 คำร้อง
หนึ่ง ส่งศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภา วินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็นนายกฯ ของ คุณอนุทิน กรณีตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีฮั้ว สว. เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
สอง ส่งให้ประธานสภา ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น สส. ของ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.พรรคประชาชน กับ พรรคภูมิใจไทย รวม 212 คน (พรรคประชาชน 143 พรรคภูมิใจไทย 69) กรณีทำข้อตกลง MOA ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
สาม ขอให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 สั่งให้พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ให้เลิกการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครอง กรณีข้อตกลง MOA นำไปสู่การยุบทั้งสองพรรค