
11 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวถึงแนวโน้มที่จะได้รับตำแหน่ง รมว.คมนาคม ว่า เท่าที่ดูก็ค่อนข้างที่จะชัดเจนแล้ว ซึ่งในส่วนนโยบายการทำงาน ต้องคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อนว่า มีนโยบายอะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่อะไรที่เป็นข้อกังขาระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะเรื่องที่ดินเขากระโดง เราน่าหยิบมาเป็นประเด็นแรกๆ เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับคนไทยทั้งประเทศว่า สรุปแล้วทั้ง 2 กระทรวง จะดำเนินการอย่างไร ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับ กรมที่ดิน จะเดินไปอย่างไร จะมีการหารือ หรือไประดับศาลหรือไม่ ตนคิดว่าดีที่สุดคือให้การรถไฟฯ กระทำในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้
เมื่อถามว่า ตั้งกรอบระยะเวลาเท่าไหร่ ที่จะให้การรถไฟฯ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง นายพิพัฒน์ กล่าวว่า อันนี้จะเป็นภารกิจแรก หลังจากที่ตนเข้านั่งในกระทรวง ก็จะหารือกับ นายอนุทิน อีกครั้ง เพราะนายกฯ จะนั่งควบ รมว.มหาดไทย ด้วย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้คนไทยสบายใจว่า เรื่องดินเขากระโดงสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร
"นี่เป็นสิ่งที่เราต้องทำสิ่งที่คาใจ ให้หายคาใจให้ได้ แม้ทั้ง 2 กระทรวง พรรคภูมิใจไทยจะได้รับหน้าที่ แต่มันไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องที่ดินที่เป็นของชาติ เราต้องทำให้ประจักษ์ว่า ที่ดินที่ได้มาทั้ง 900 กว่าราย ควรจะต้องทำอย่างให้มันกระจ่าง ถ้าหากการรถไฟฯ สามารถฟ้องเป็นรายแปลงได้ เราจะรีบดำเนินการทันที เราตั้งธงไว้ว่า เราต้องรีบดำเนินการ"
เมื่อถามว่า ระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาล จะเพียงพอที่ทำให้เกิดความกระจ่างหรือไม่ นายพิพัฒน์ ตอบว่า 4 เดือน ตนไม่แน่ใจในเรื่องนำเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย จะเสร็จหรือไม่เสร็จ แต่ใน 4 เดือนนี้ ตนจะให้การรถไฟฯ เริ่มดำเนินการทันที
เมื่อถามต่อว่า กังวลหรือไม่อาจจะเป็นดาบสองคม ถ้าดีก็ดีไปเลย ถ้าไม่ดีอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ นายพิพัฒน์ ตอบว่า ตนคิดว่าอะไรก็แล้ว แต่ที่เราทำให้กระจ่าง มันก็เป็นเรื่องของทางกฎหมายจะดำเนินการต่อ แต่ต้องบอกว่า ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดูแน่นอน สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คนไทยต้องได้รับความกระจ่าง