
7 กันยายน 2568 ข่าวใหญ่วันนี้ ยังคงเป็นควันหลงต่อเนื่องจากการที่ประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ นามว่า อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
จังหวะทางการเมืองของคุณอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ต้องบอกว่าน่าสนใจจริงๆ และวางแผนมาเป็นอย่างดี แต่ละย่างก้าวเต็มไปด้วยความสุขุม รัดกุม ไม่กระโตกกระตากเกินงาม แต่ก็ไม่ได้เนิบช้า เพราะปัญหาบ้านเมืองรอไม่ได้ ประกอบกับรัฐบาลของตัวเองประกาศสัญญาประชาคมไว้ว่า จะอยู่แค่ 4 เดือน
ในวงเล็บก็คือ ถ้าหากทำดี ประชาชนคนไทยอาจไม่อยากให้รีบไป หรือถ้าต้องไป (ยุบสภาตามสัญญา) เผลอๆ พรรคประชาชนอาจถูกด่า และเสียแต้มในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยซ้ำไป
ฉากแรกหลังรับเลือกจากสภาพเป็นนายกฯ คุณอนุทิน ไปกราบคุณพ่อ คือ “ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย วัย 79 ปี / ทำให้ได้ภาพความเป็นลูกกตัญญู / ได้ใจคนในสังคมไทยไปเรียบร้อย
ฉากต่อมา คือ การเปิดตัว “ว่าที่ ครม.ใหม่” ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะศัตรูทางการเมือง และผู้คนในสังคมรอขย้ำซ้ำเติมอยู่ เนื่องจากรู้กันดีว่า การตั้งรัฐบาลแบบนี้ เก้าอี้รัฐมนตรีเหลือเฟือแบบนี้ เพราะพรรคประชาชนไม่ยอมร่วมวงใน ครม.ด้วย / จะต้องมีรายการตอบแทนทางการเมืองแน่ๆ
ตำแหน่ง และตัวบุคคล "สายล่อฟ้า" อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา
คุณศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะนักวิเคราะห์การเมืองชื่อดัง บอกว่า สิ่งแรกที่คุณอนุทินต้องตัดสินใจ คือ จะตั้ง สส.งูเห่า เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หากตั้งก็จะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมา โดยเฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และข้อบังคับพรรคการเมืองแทบทุกพรรค ที่ระบุชัดเจนว่า การส่งคนเข้าไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จะต้องเป็นมติกรรมการบริหารพรรค
นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะนักวิเคราะห์การเมืองชื่อดัง
ฉะนั้นหากไปตั้ง สส.งูเห่า ที่พรรคต้นสังกัดอยู่คนละฟากฝ่ายทางการเมือง ย่อมถูก “มือดี” ยื่นร้องเรียนแน่นอน
ข้อควรระวังต่อมา คือ การตั้งรัฐมนตรีในตำแหน่งอ่อนไหว และบุคคลอ่อนไหว เรียกรวมๆ ว่า “ตำแหน่ง และตัวบุคคล สายล่อฟ้า” อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา นั่นก็คือ
- รัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยงานที่ทำคดีฮั้ว สว. โดยเฉพาะ รมว.ยุติธรรม
- รัฐมนตรีที่กำกับดูแลกรมที่ดิน ซึ่งต้องรับผิดชอบปัญหากรณีเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งก็คือ รมว. หรือ รมช.มหาดไทย
- รัฐมนตรีที่กำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีเขากระโดงเช่นกัน นั่นก็คือ รัฐมนตรีคมนาคม
- รัฐมนตรีนอมินี ที่เข้ามารับตำแหน่งแทน “คนหลังม่าน - ผู้มีอำนาจตัวจริง” ของกลุ่มการเมือง และพรรคการเมือง ซึ่งรัฐมนตรีเหล่านี้ มีหน้าที่แค่ “เก็บกล้วย - เก็บงาน” ให้ “บุคคลหลังม่าน” เท่านั้น
ที่สำคัญที่สุด คือ คุณสมบัติของ “ว่าที่ นายกฯอนุทิน” เอง เพราะมีความพยายามจากพรรคเพื่อไทย ตีความปัญหาจริยธรรมโยงไปถึงข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีฮั้ว สว. และการมีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่เขากระโดง / คาดว่าจะมีการร้องศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช.ทันทีที่คุณอนุทินรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
สร้าง First impression
แต่การเดินเกมการเมืองฉากนี้ ถือว่า คุณอนุทิน ฉลาดมากที่ไม่เลือกเปิดโผครม.ในภาพรวมก่อน แต่เชิญบุคคลที่ตนเองทาบทามมาดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีคนนอก” ใน 3 กระทรวงสำคัญ มาหารือที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็แน่นอนว่าสื่อมวลชนต้องได้เห็นด้วย และเท่ากับเป็นการเปิดตัวไปโดยปริยาย
ปรากฏว่า ทั้ง 3 คน หน้าตาไม่ขี้เหร่ / ทุกคนได้รับการยอมรับอย่างสูงในสายงานของตนเอง / มีความเป็นเทคโนแครต / และหน้าตาดูดีกว่ารัฐมนตรีกระทรวงเดียวกันในรัฐบาลเพื่อไทย
ถือเป็นการใช้จังหวะก้าวทางการเมือง สร้าง First impression หรือ ความประทับใจแรกให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี / คือยุทธศาสตร์ ชูจุดแข็ง เรียกกระแสสนับสนุนก่อน / เดี๋ยวพอเปิดตัวรัฐมนตรีกลุ่ม “ต่างตอบแทน” เสียงต่อว่าก็จะเบาลง / และน่าจะมีกระแสแนวๆ ให้โอกาสเพิ่มมากขึ้น