svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ ไม่เข้าร่วมรัฐบาล แต่ยื้อการประกาศโหวตอนุทินเป็นนายกฯ

3 กันยายน 2568 นายวัส ติงสมิตร อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฏีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ความเห็น กรณีพรรคประชาชน สร้างเงื่อนไขไม่ร่วมรัฐบาลแต่โหวต คุณ อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ ว่า 

 

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ

นายวัส ติงสมิตร อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฏีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

การที่พรรคประชาชนใช้กลยุทธ์โหวตให้นายอนุทินเป็นนายกฯ แต่ประกาศชัดว่าจะไม่เข้าร่วมรัฐบาล เป็น “กลยุทธ์ทางการเมือง” ในระบบรัฐสภา โดยมีชื่อเรียกต่าง ๆ เช่น “confidence and supply” หรือ “outside support”

 

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ

 

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ

 

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ

 

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ

 

 

 

 

พรรคประชาชนน่าจะ “รู้คำตอบตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2568 ว่าจะโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ” แต่กลับยื้อการประกาศอย่างเป็นทางการ จนถึงช่วงสายวันที่ 3 ก.ย. ก่อนการลงมติเลือกนายกฯ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการวางหมากการเมือง โดยมีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

 


1) ใช้ “เวลา” เป็นเครื่องมือสร้างอำนาจต่อรอง

 

แม้จะมีคำตอบภายในแล้ว แต่ถ้าประกาศเร็วเกินไป พรรคจะหมดอำนาจต่อรองในช่วงชั่วโมงสุดท้ายไป

การยื้อถึงวันลงมติ ทำให้ทั้งสองขั้ว (พรรคเพื่อไทย–ชัยเกษม และพรรคภูมิใจไทย–อนุทิน) ต้องรอคำตอบ และพยายามเจรจาต่อรองเงื่อนไขที่พรรคประชาชนวางไว้ (ยุบสภา-ไม่เข้าร่วมรัฐบาล-แก้รัฐธรรมนูญ)

 

2) รักษากระแสความสนใจทางสังคม

การปล่อยให้สังคมคาดเดา จับตา และรอลุ้นการแถลง ทำให้พรรคประชาชน “อยู่ในศูนย์กลางความสนใจ” ตลอด 24 ชั่วโมง
ยุทธศาสตร์นี้ช่วยให้พรรคได้รับพื้นที่สื่อและสร้างความชัดเจนในภาพลักษณ์ว่า “เราเป็นตัวแปรชี้ขาด”

 


3) สร้างแรงกดดันต่อผู้ถูกเลือก (อนุทิน)

การไม่ประกาศทันทีทำให้อนุทินและพรรคภูมิใจไทยต้องแสดงท่าทีอ่อนน้อม-ยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้เสียงโหวตให้เป็นนายกฯ
กล่าวคือ พรรคประชาชนทำให้การตัดสินใจสนับสนุน “มีราคาและความหมาย” ไม่ใช่ให้ฟรี

 

 

4) สร้างความชอบธรรมต่อฐานมวลชน

 

ถ้าประกาศตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. ฐานมวลชนบางส่วนอาจมองว่าพรรค “รีบร้อน” หรือ “ไปตกลงลับ ๆ กันแล้ว”
แต่การรอจนถึงวันจริง แล้วอธิบายอย่างเป็นพิธีการว่าตัดสินใจเพราะเหตุผลเชิงหลักการ (ยุบสภา-ไม่ร่วมรัฐบาล) ทำให้การโหวตครั้งนี้ดู สะอาด โปร่งใส และเป็นไปตามเงื่อนไขที่ประกาศต่อสาธารณะ

 

5) หากพรรคเพื่อไทยตัดสินใจยุบสภาผู้แทนราษฎร และทำสำเร็จก่อนการโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ

จะทำให้พรรคประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะไม่ต้องรออีกครึ่งค่อนปีในการยุบสภาฯ

 


6) บทสรุป

ปฏิบัติการของพรรคประชาชนในชั่วโมงท้ายๆ เป็นการเล่นเกมเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อ

 

(1)เพิ่มอำนาจต่อรอง

(2) ดึงความสนใจสังคม

(3) กดดันอนุทินให้ยอมรับเงื่อนไข

(4) สร้างภาพความชอบธรรมต่อมวลชน

 

 

อ่านขาด! เกมเชิงยุทธศาสตร์ของ "พรรคประชาชน" เมื่อเป็นตัวแปรสำคัญ