
2 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 หรือ งบปี 69 วงเงินรวม 3.78 ล้านล้านบาท หลังสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะครบทั้ง 78 คนแล้ว นายอลงกต วรกี สว. ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ฯ ชี้แจงว่า งบปี 69 นี้ไม่ต่างอะไรกับแม่น้ำกก ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีมลพิษ สว.ที่นั่งอยู่ตรงนี้เราอาจจะเหมือนกุมภกรรณ ในรามเกียรติ์เราจะขวางน้ำดีหรือให้น้ำไป ถ้าหากขวางน้ำที่มีมลพิษ มีทั้งเศษสวะ วัชพืช อาจจะถูกตั้งข้อสงสัยว่า เราจะเป็นพญาชาละวันขวางมหานทีหรือไม่ หรือจะเป็นกุมภกรรณขวางน้ำหรือไม่ ที่น้ำมีมลพิษ ถ้าเปรียบคนไข้ก็คือคนไข้โคม่าสมองตายแล้ว แต่ร่างกายยังทำงานอยู่ จะทำการุณยฆาตดี หรือจะต้องรักษาดี จรรยาบรรณทางการแพทย์ ก็คงต้องรักษา ในแง่ กมธ.ฯ มีสองทางคือ จะผ่าน หรือไม่ผ่าน
นายอลงกต กล่าวต่อว่า ที่สำคัญเนื่องจาก กมธ.ฯ ไม่สามารถปรับลดปรับเพิ่มหรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ แต่การอภิปรายทั้ง 2 วัน รวมทั้งเอกสารรายงานของ กมธ.ฯ แสดงให้เห็นว่า เราใส่ใจต่องบประมาณที่มีความ "ขี้เหร่" อยู่ตลอดเวลา แต่อย่างน้อยภาพของงบประมาณฉบับนี้ แสดงถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้ต่อยอดการพัฒนา รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน สามารถสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างความเสมอภาค และสร้างความมั่นคงกับประชาชน เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนพัฒนาพื้นที่
ทั้งนี้หน่วยงานที่รับงบประมาณไปดำเนินการ อาจจะดำเนินการได้ตามความจำเป็น หรือความต้องการของประชาชน ตามงบประมาณที่ได้เขียนไว้ ถึงแม้การเขียนงบประมาณฉบับนี้ ทาง กมธ.ฯ พยายามที่จะตรวจสอบรายละเอียด ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้มากนัก เพราะมีแต่ตัวเลขกลมๆ กับรายการโครงการเท่านั้น อย่างไรก็ตามข้อสังเกตที่สมาชิกกล่าวมาทั้งหมดทั้ง 78 คน รวมทั้งข้อสังเกตของ กมธ.ฯ ทั้ง 45 คน ได้ถูกบันทึกไว้ในเอกสารและได้กำหนดไว้ว่า จะต้องนำส่งผู้เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการปรับปรุงงบประมาณในปีต่อไป รวมทั้งใช้ในการกำกับดูแลงบประมาณ ปี 69 อย่างแน่นอน
ขอฝากรัฐบาลให้ติดตามเร่งรัดการจัดทำงบประมาณให้ทัน แต่ที่น่าสนใจคือ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรักษาการ เมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการ จะมีความชอบธรรมหรือไม่ ในการใช้งบประมาณ ปี 69 ฉบับนี้
จากนั้นเป็นการลงมติ โดยที่ประชุมมีเห็นชอบ 151 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง จึงถือว่า ร่างพ.ร.บ.งบฯปี 69 ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา ขั้นตอนจากนี้ส่งกลับรัฐบาล เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้ต่อไป
จากนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวขอบคุณ สว.ที่ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาต่างๆ เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และพัฒนาระบบบริหารจัดการของภาครัฐ ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทุกมิติ พร้อมทั้งข้อคิดเห็น คำแนะนำ รวมทั้งความห่วงใยที่สมาชิกเสนอแนะ รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณ และจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงดำเนินงานของหน่วยราชการ ในการจัดทำงบประมาณ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายได้มากที่สุด
“ขอขอบคุณ กมธ.ฯ ทุกคน ที่ร่วมมือในการพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งให้ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ต่อการบริหารราชการ ที่จะนำไปประกอบปรับปรุงดำเนินงาน ให้การจัดสรรทรัพยากรมีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ผมขอให้ความมั่นใจว่า การจัดงบประมาณในครั้งนี้ ทำไปตามวัตถุประสงค์ และแผนงานที่กำหนด โดยรัฐบาลจะกำกับดูแลเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณต่างๆ มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตามเจตนารมย์ของรัฐบาลและความมุ่งมั่นของสมาชิกทุกคน” นายพิชัย กล่าว