svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง

2 กันยายน 2568 อีกหนึ่งประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก และแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่าง “รักษาการนายกฯ ภูมิธรรม” นำมาใช้เป็น “คำขู่” คู่ต่อสู้ทางการเมือง นั่นคือการ “ใช้อำนาจยุบสภา” 

 

 

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง

 

 

ต่อมาวันอาทิตย์ หลังไปยื่นข้อเสนอรับ TOR เพื่อขอเสียงสนับสนุนจาก "พรรคประชาชน" ทั้ง รักษาการนายกฯภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ประกาศด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจังว่า พร้อมยุบสภา 


จากท่าทีเต็มไปด้วยความมั่นใจ ผสมด้วยแรงแค้นที่ปิดไม่มิด ทำให้มีการคาดการณ์กันไปต่างๆ นานาว่า “บิ๊กอ้วน ภูมิธรรม” ในฐานะรักษาการนายกฯ อาจจะตัดสินใจ “ลุยไฟยุบสภา” จริงๆ ตามที่ประกาศ โดยไม่แคร์ว่าอะไรจะเกิดตามมา เพราะอาจถือหลักว่า “ถ้าข้าอด เอ็งก็อย่าหวังว่าจะได้” 

 

ที่ผ่านมามีกูรูกฎหมายหลายคนออกมาแสดงความเห็นเรื่องอำนาจยุบสภาของรัฐบาลรักษาการ ซึ่งส่วนใหญ่จะฟันธงไปในแนวทางว่า “ยุบไม่ได้” 

 

 

คนที่ออกมาแสดงทัศนะตั้งแต่วันแรกๆ ก็เช่น อาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตกุล จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา 

 

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง อาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตกุล จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

 

 

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง นายปกรณ์​ นิล​ประพันธ์" ​ เลขาธิการ​คณะกรรมการ​กฤษฎีกา​ 

 

 


ส่วนคนที่ทยอยให้ความเห็นเพิ่ม ในช่วงที่สื่อมวลชนต้องการความเห็นที่หลากหลาย “เนชั่นทีวี” คุยกับ รศ.ดร.ภูมิ มูลศิลป์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มศว. ในฐานะนักกฎหมาย อาจารย์ภูมิ ก็บอกว่า รัฐบาลรักษาการ หรือนายกฯรักษาการ ไม่สามารถยุบสภาได้ เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 103 บัญญัติให้การยุบสภาเป็นพระราชอำนาจ กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ผู้เสนอพระราชกฤษฎา ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงเท่านั้น 

 

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง รศ.ดร.ภูมิ มูลศิลป์ คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

 

 

 

โดยยึดโยงกับหลักการถ่วงดุลอำนาจอธิปไตยด้วย กล่าวคือ สภาถอดถอนนายกฯผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ นายกฯก็ยุบสภาได้ แต่ต้องเป็นนายกฯตัวจริงที่สภาลงมติเห็นชอบให้เป็นนายกฯ ไม่ใช่นายกฯรักษาการ 

นอกจากนั้น รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจจำกัด ทำได้เฉพาะบริหารราชการประจำวัน ไม่สามารถใช้อำนาจสำคัญๆ เช่น โยกย้ายข้าราชการได้ ส่วนการยุบสภา กระทบกับ สส.ทั้งสภา ถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องอาศัยอำนาจของนายกฯตัวจริง ไม่ใช่นายกฯรักษาการ 

 

 

ขณะที่ “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน อ้างมาตรา 168 (1) ที่ว่า เมื่อครม.พ้นตำแหน่ง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีพ้นตำแหน่ง ครม.เดิมมีอำนาจเฉพาะรักษาการต่อไป เพื่อบริหารบ้านเมืองชั่วคราวจนกว่าจะมี ครม.ชุดใหม่เท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจนอกเหนือจากนี้ 

 

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง

“ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน

 

 

แต่หาก “บิ๊กอ้วน” กล้าลุยไฟ “ยุบสภา” จริงๆ คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ “นักร้องคนดัง” ก็เตรียมลับดาบ ยื่นคำร้องฟัน “บิ๊กอ้วน” เอาไว้แล้ว โดยจะฟ้องศาลปกครองให้การยุบสภาเป็นโมฆะ และร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นการกระทำขัดต่อมาตรา 3 และ มาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ได้แก่ 

 

 

"เรืองไกร" ลับดาบรอเชือด "บิ๊กอ้วน" หากกล้าลุยไฟ "ยุบสภา" จริง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ “นักร้องคนดัง

 

 

มาตรา 3 วรรค 2 “รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของ ประชาชนโดยรวม” 

มาตรา 6 “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้…” 

 

คุณเรืองไกร บอกด้วยว่า อำนาจการยุบสภาของรัฐบาลรักษาการ ยังเป็นที่ถกเถียงกันในสังคม หากคุณภูมิธรรมตัดสินใจยุบสภา จะเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ เป็นการทูลเกล้าฯ สิ่งที่ยังไม่เป็นที่ยุติไปยังสถาบันเบื้องสูงหรือไม่ และเป็นการใช้อำนาจตามหลักนิติธรรมตรงไหน เนื่องจากเป็นการนำการยุบสภามาสร้างความได้เปรียบ หรือข่มขู่ทางการเมือง 

 

 

 

“ศึกซักฟอก 151” คุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้จริงหรือ? 


ส่วนโรดแมปการเมืองของ “พรรคประชาชน” ที่อ้างว่าจะใช้เสียง 142  สส.ของตนกำหนดทิศทางการเมือง ผ่านการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ไม่เข้าไปร่วมบริหาร และจะเป็นฝ่ายค้าน โดยใช้อำนาจตรวจสอบ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 นั้น 

 

 

เรื่องนี้มี “กูรูกฎหมาย” และ “กูรูการเมือง” แย้งมาบ้างเหมือนกันว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเฉพาะกิจที่จะตั้งขึ้นมา แม้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ก็ไม่ง่ายที่จะควบคุมโดยใช้กลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจาก 

 - เมื่อยื่นญัตติอภิปราย นายกฯจะยุบสภาไม่ได้ ทำให้เป้าหมายการยุบสภาของพรรคประชาชนยืดเยื้อออกไปอีก

 - การจะล้มรัฐบาล หรือรัฐมนตรีผ่านญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เสียงไม่ไว้วางใจต้องเกินกึ่งหนึ่งของ จำนวน สส.ที่มีอยู่ทั้งสภา ไม่ใช่แค่โหวตชนะด้วยเสียง สส.ที่มากกว่าเท่านั้น / ด้วยเหตุนี้การควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยผ่านศึกซักฟอก จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย