svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สภาฯ ผ่านร่าง กม.รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 2 ฉบับสุดท้าย-ส่ง สว.ถกต่อ

สภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่างกฎหมาย "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย" 2 ฉบับสุดท้ายแบบทุลักทุเล-องค์ประชุมร่อแร่! – ส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ

ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเอกฉันท์ 383 เสียง ให้ความเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม" ซึ่งเป็นร่างกฎหมายฉบับที่ 2 จากทั้งหมด 3 ฉบับในชุดร่างกฎหมายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในวาระที่ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จ

 

นอกจากนั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ยังมีมติเสียงข้างมาก 248 เสียง ต่อ 151 เสียง ให้ความเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" ในวาระที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายในชุดร่างกฎหมายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนที่จะมีการลงมติรายมาตรา ในวาระที่ 2 และการลงมติในวาระที่ 3 นั้น เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจาก ฝ่ายค้านไม่ได้ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมด้วย โดยให้ฝ่ายรัฐบาล เป็นผู้รักษาองค์ประชุม ทำให้ในการตรวจสอบองค์ประชุมแต่ละครั้ง ประธานการประชุม ต้องใช้เวลาในการรอ สส.พรรคร่วมรัฐบาลมาแสดงตนให้ครบองค์ประชุม และ สส.พรรคเพื่อไทย ต้องคอยลุกขึ้น เพื่อขอให้ประธานการประชุม ได้รอ สส.มาแสดงตน เนื่องจาก มี สส.หลายคนต้องร่วมการประชุมกรรมาธิการ ในห้องประชุมอื่น ๆ ซึ่งการตรวจสอบองค์ประชุมแต่ละครั้ง ก็จะมีจำนวน สส.เกินจำนวนองค์ประชุม 246 เสียง มาไม่ถึง 5 เสียง บางครั้งมีองค์ประชุมเพียง 247 คน

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ สภาผู้แทนราษฎร จะส่งชุดร่างกฎหมายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ให้วุฒิสภาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

 

ทั้งนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติให้ความเห็นชอบ "ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง" ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และส่งให้วุฒิสภา ได้พิจารณาไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

ขณะที่ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการวุฒิสภา แถลงว่า ที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้พิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง ซึ่งมีจำนวน 150 มาตรา ตามที่สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบแล้ว พร้อมประชาชนสบายใจว่า วุฒิสภามีวุฒิภาวะอย่างเพียงพอในการโหวต เพื่อผลประโยชน์ของคนไทย แต่ขอให้ประชาชนเข้าใจว่า สว.ต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ซึ่ง สว.คงไม่ใช้วุฒิภาวะในการโหวตเพื่อผลประโยชน์ ให้แก่กลุ่มคนหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ดังนั้น เมื่อมีมาตราจำนวนมากจึงต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณา