svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ลุ้น "อสส." ฟันธง อดีตตร.ลูกน้อง "บิ๊กสีกากี" รอดสองคดีทุจริตหรือไม่ !?

"สตช." รอลุ้น ฟังความเห็น "อสส." สองคดีร้อน อดีตตร.ลูกน้อง"บิ๊กสีกากี" ไปต่อหรือพอแค่นี้ เหตุ คดีมีความเชื่อมโยงอาจถูกนำไปต่อสู้กับคดีอื่นๆ ที่มีผลกับกระบวนการยุติธรรมในภาพรวม

23 สิงหาคม 2568  รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจเเห่งชาติเเจ้งว่า กรณีของอดีตรองผบ.ตร.เเละลูกน้องที่ถูกกล่าวหากระทำผิดหลายคดี โดยคดีต่างๆกระจายอยู่หลายเเห่งในการพิจารณาเช่น สำนักงานป.ป.ช./สำนักงานป.ป.ง. /สำนักงานตำรวจเเห่งชาติเเละสำนักงานอัยการสูงสุดนั้น ฐานความผิดของคดีเหล่านี้มาจากการใช้ตำเเหน่งหน้าที่โดยมิชอบกระทำผิด /การฟอกเงิน/เว็บพนันที่เชื่อมโยงไปคดีอื่นๆเเบบต่างกรรมต่างวาระเเต่มีผลซึ่งกันเเละกันเพราะผู้ร่วมกระทำผิดมีจำนวนมาก

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ เเจ้งว่า เเต่ช่วงไตรมาสเเรกของปีนี้พบว่าสองคดีที่เกี่ยวพันอดีตรองผบ.ตร.เเละลูกน้องนั้น อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1สำนักงานอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องไปสองคดีเเละสำนักงานตำรวจเเห่งชาติทำความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาเเล้วเเละรอความเห็นดังกล่าว

โดยคดีเเรกคือ คดีอาญาที่ 2187/2567 ของ สภ.สำโรงเหนือ คดีกล่าวหา พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ผู้ต้องหา กรณีการเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ต่อมาพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาไปยัง ผบช.ภ.1 พิจารณาตาม ป.วิอาญา มาตรา145/1 และวันที่ 17 เม.ย.2568 ผบช.ภ.1 ได้ทำความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา 


โดยคดีนี้บก.ปปป.พบว่าพ.ต.ท.คริษฐ์ใช้ตำรวจสภ.สำโรงเหนือเข้าถึงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยสืบค้นข้อมูลของอดีตผู้ว่าฯคนหนึ่งเพื่อนำไปร่วมสร้างหลักฐานเท็จร่วมกับอดีตบุคลากรของสำนักงานป.ป.ช.เเละเซียนพระชื่อดังว่าอดีตรองผบ.ตร.เเนะนำอดีตผู้ว่าฯขายพระให้เซียนพระชื่อดัง โดยเซียนพระเเบ่งเงินค่านายหน้ากว่าสิบล้านบาทให้อดีตรองผบ.ตร.เเละนำไปซื้อปืนกว่าสองร้อยกระบอกซึ่งเป็นบัญชีทรัพย์สินที่ต้องยื่นกับป.ป.ช.

คดีที่สองคือ คดีอาญาที่ 2633/2566 ของ สภ.สำโรงเหนือ คดีระหว่าง นายพุฒิพงษ์ พูนศรี
ผู้กล่าวหา พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ผู้ต้องหา กรณีใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ข่มขืนใจหรือจูงใจให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคารนำไปใช้ในการกระทำผิดฐานฟอกเงิน(บัญชีม้า) ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาไปยัง ผบช.ภ.1 พิจารณาตาม ป.วิอาญา มาตรา 145/1 และวันที่ 17 เม.ย.2568 ผบช.ภ.1 ได้ทำความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา
โดยคดีนี้พบว่าบัญชีม้าดังกล่าว พ.ต.ท.คริษฐ์เป็นผู้ใช้ ซึ่งบก.ปปป.พบว่า พ.ต.ท.คริษฐ์มีการใช้บัญชีม้าดังกล่าวรับเเละโอนเงินในหลายกรณีที่เชื่อมโยงกัน

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจเเห่งชาติเเจ้งว่า  ตอนนี้รอความเห็นของนายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อสส.คนปัจจุบัน หรือนายอิทธิพร เเก้วทิพย์  อสส.คนใหม่ที่จะรับหน้าที่วันที่ 1 ตุลาคม 2568  ที่จะพิจารณาสองคดีดังกล่าวว่าจะใช้เวลานานเท่าใดเเละมีความเห็นเช่นใด เพราะสองคดีนี้มีผลเชื่อมโยงเเละอาจถูกนำไปต่อสู้กับคดีอื่นๆที่มีผลกับกระบวนการยุติธรรมในภาพรวมกับคดีของอดีตรองผบ.ตร.เเละลูกน้องที่มีจำนวนมาก