
18 สิงหาคม 2568 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลง กรณีที่ นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 69 โดยตอนหนึ่ง กล่าวถึงโครงการสร้างหัวหาดเทียม ชายฝั่งทะเลปราณบุรี เป็นการ ชงเองกินเอง ลงบ้านรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นการเอื้อประโยชน์ ให้รมต. ขัดรธน.มาตรา 144 ว่า เรื่องนี้ ไม่มีมูลความจริง ซึ่งตนได้ให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งชี้แจงไปแล้วว่าไม่เป็นความจริง และอยากให้นักการเมืองรุ่นใหม่ท่านนี้ ตรวจสอบข้อมูล สอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ได้
"การไม่รู้ข้อมูลแล้วนำไปอภิปรายให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารได้เกิดขึ้นแล้ว ท่านพูดในสภาอย่างสง่าผ่าเผย ท่านไม่รู้เรื่องเลย ท่านสอบถามได้ แต่ไม่ใช่ ท่านตั้งใจเล่นการเมืองอย่างเดียว ไม่เหมาะกับ นักการเมืองรุ่นใหม่" นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อไปว่า “ผมว่า ท่านไม่เหมาะกับการเป็นนักการเมืองรุนใหม่ ที่บอกว่า ให้ไปเสริชในกูเกิ้ล หาดปราณบุรี ที่คาบเกี่ยวสองเทศบาล ปากน้ำปราณ เดินไปไม่กี่ก้าว เป็นเทศบาลปราณบุรี และบังเอิญ นายกฯเทศมนตรีปราณบุรี นามสกุลเดียวกับรมต. แน่นอนเป็นภรรยาผม แต่ไม่เป็นไรมันเฉียดไป ส่วนเอื้อรมต.หรือไม่ ซึ่งขัด รธน. ตามมาตรา 144 นี่คือการพูดในสภาฯ แต่เวลาที่เขานำมาลงเพจ เป็นคนดี ชงเองกินเอง พูดแต่เพียงว่า การดำเนินการ โครงการนี้ทับซ้อน หลีกเลี่ยงอีไอเอ ส่อเป็นการเอื้อประโยชน์ รมต.ทรัพยากรฯ ซึ่งเป็นการของบลงพื้นที่ประจวบฯ ซึ่งอาจผิด รธน.มาตรา 144 "
ตอนแรก ผมคิดว่า มีคนให้ข้อมูลผู้อภิปรายผิด แล้วท้าให้ดูกูเกิ้ล ดังนั้นตนจะขอแสดงแผนที่ ตามที่เขาบอกว่า ที่บอกว่าเดินไม่กี่ก้าว จากจุดที่ทำโครงการก็จะถึงเทศบาลปราณบุรี ทั้งที่จากภาพ เทศบาลปากน้ำปราณ ชายฝั่งทั้งหมด กรมโยธาธิการ ไปทำเขื่อนกันน้ำทั้งหมดแล้ว ทช. ต้องไปอธิบาย ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ผม ขณะที่ เทศบาลปราณบุรี ดูจากแผนที่ คนละจุดเลย
"ผมขอฝากเตือนพรรคประชาชนด้วย ความเสียหายผมเกิดขึ้นแล้ว เกิดขึ้นไม่ใช่ความบกพร่อง แต่เกิดขึ้นด้วยความเจตนา ส่วนจะฟ้องหรือไม่ ค่อยว่ากัน ถ้าทำแล้วไม่เอาข้อเท็จจริงมา มันใช้ไม่ได้ เป็นการพูดเท็จในสภา การตั้งงบประมาณตรงนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับผม ไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าเขาไปตั้งในจังหวัดประจวบฯ งบประมาณ ภาษีประชาชน ลงตรงไหนก็ได้ ทุกตารางเมตร ลงได้ทั้งหมด ส่วนความจำเป็นพิจารณาเป็นเรื่องของหน่วยงาน มีหลักวิชาการ พิจารณาให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้โพสต์ข้อความ หลังการอภิปรายงบ ไว้ด้วยว่า
ชงเอง กินเอง ? กระทรวงทรัพย์ฯ จัดงบ ‘โครงการสร้างหัวหาดเทียม’ ลงบ้านรัฐมนตรี ชี้ ไร้รายละเอียดส่อเจตนาไม่ทำ EIA เลี่ยงการตรวจสอบของสภา ]
.
ผมได้มีส่วนร่วมในการอภิปราย การประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระ 2 และวาระ 3 ถึงโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กิจกรรมติดตั้งหัวหาดเทียมผสมผสานแนวทางในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าอาจเป็นการหลีกเลี่ยงการทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) และมีความซ้ำซ้อนไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วน
เนื่องจากพื้นที่มีการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นอยู่แล้ว ไม่มีความเสี่ยงที่ชายหาดจะหายไป นอกจากนี้ ยังส่อเป็นการเอื้อประโยชน์ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน) เพราะเป็นการชงงบลงพื้นที่ จ.ประจวบคิรีขันธ์ ของตัวเองจึงเป็นห่วงว่าอาจผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ได้
.
ส่วนกรณีการเลี่ยง EIA ประเด็นที่ติดใจก็คือ โครงการนี้เสนอขึ้นมาโดยไม่มีความชัดเจน ไม่มีใครเห็นเอกสารอะไรเลย กรรมาธิการก็ไม่ชี้แจงรายละเอียดต่อสภา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าโครงการท่านเป็นแบบไหน บอกกว้างเป็นทะเลว่าเป็นโครงการฟื้นฟูธรรมชาติโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน ท่านอาจบอกว่าการเอาหินไปวางทำได้เพราะก้อนหินเป็นธรรมชาติ แต่คำถามคือถ้าหินนั้นวางเป็นแนวทิ่มออกไปเป็นเส้น ๆ ในทะเลไม่ต่างจากโครงสร้างแข็ง แบบนี้ต้องทำ EIA หรือไม่
.
“สิ่งที่เป็นปัญหาอย่างยิ่งของโครงการนี้คือเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณลงไปในจังหวัดของรัฐมนตรีโดยไม่มีการศึกษาก่อน ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็ทำได้ แต่ต้องเอาผลการศึกษามายืนยัน และไม่รู้ว่าจะทำแบบไหน และจะฟื้นฟูชายหาดได้อย่างไร มันต่างจากแนวกันคลื่นเดิมตรงไหน ท่านไม่มีการศึกษาข้อเท็จจริงใด ๆ มาเสนอแต่กลับตั้งเป็นโครงการเพื่อของบประมาณเลย โดยกรรมาธิการก็ไม่ชี้แจงว่าเป็นโครงสร้างแบบใด
“การทำแบบนี้คือเจตนาเลี่ยง EIA เลี่ยงการตรวจสอบชัดเจน ถ้ามั่นใจว่าการทำหัวหาดเทียมเป็นเรื่องจำเป็นจะกลัวทำไม ทำ EIA ไปเลยจะได้รู้กันไป ผมไปคุยกับนักวิชาการ นักอนุรักษ์ หรือกระทั่งประชาชนในพื้นที่ก็งงมาก ทำไมเร่งด่วน อยากทำก็ทำ นี่คือภาษีของพี่น้องประชาชน ทุกอย่างควรชัดเจนอธิบายได้ ไม่ใช่ตั้งชื่อแบบหนึ่งเพื่อเลี่ยง EIA แต่พอเสร็จออกมาเป็นอีกอย่างและดีไม่ดีอาจทำร้ายธรรมชาติมากกว่าเดิมเหมือนโครงการกำแพงกันคลื่นที่ไม่ต่างจากเพชรฆาตชายหาดทั่วภาคใต้และต้องตามแก้กันในวันนี้ หากนี่เป็นการทำโครงการที่ไม่มีความจำเป็นและซ้ำซ้อนก็ไม่ต่างจากมะเร็งร้ายของการทำงบประมาณผลาญเงินพี่น้องประชาชนทุกคน ผมจึงเสนอให้ตัดโครงการนี้ครับ”